ในขณะที่แพลตฟอร์ม E Marketplace และโซเชียลมีเดียต่างๆ ทยอยเพิ่มฟีเจอร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจบนโลกดิจิตัลอย่างต่อเนื่อง Google Maps แอปพลิเคชั่นให้บริการแผนที่แบบเรียลไทม์ ก็เพิ่มฟีเจอร์เพื่อ “ธุรกิจท้องถิ่น” บนโลกออฟไลน์เช่นกัน
ซันนี่ชวนมาดู “4 ฟีเจอร์ใหม่ จาก Google Maps” ที่ช่วยให้ร้านค้าปลีกรายย่อยปรับตัวเข้ากับผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้ง่ายขึ้น จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
1. Area Busyness : แสดงความหนาแน่นของสถานที่
หลายครั้งที่เราเดินทางไปถึงร้านค้าหรือร้านอาหาร แล้วพบว่าที่นั่งในร้านอาหารนั้นเต็มหมดแล้ว หรือต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมาก
“Area Busyness” ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Maps จะช่วยบอกความหนาแน่นของสถานที่แบบเรียลไทม์ สามารถดูการคำนวณความหนาแน่นในช่วงเวลาอื่นๆ ของวันได้ตลอดสัปดาห์ โดยระบบจะคำนวณความหนาแน่นของฝูงชนจากบริเวณโดยรอบ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากในการวางแผนการเดินทาง ไม่ว่าจะต้องการหลีกเลี่ยงความแออัด หรือต้องการเดินทางไปร่วมงานเทศกาลที่มีบรรยากาศครึกครื้น
2. Directory Tab : แสดงตำแหน่งร้านค้าในอาคาร
หากคุณอยู่ในห้างสรรพสินค้า สนามบิน หรืออาคารขนส่งสาธารณะ Google Maps จะแสดง “Directory Tab” หรือแถบแนะนำสถานที่สำคัญในอาคาร อย่าง ร้านค้า ร้านอาหาร ลานจอดรถ ฯลฯ พร้อมข้อมูลเบื้องต้น เช่น
- เวลาเปิด-ปิด
- ชั้นและตำแหน่งที่ตั้งในอาคาร
- ดาวที่ได้รับจากการรีวิว
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทั่วอาคารเพื่อหาร้านที่ต้องการ และยังช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านค้าปลีกมากขึ้นอีกด้วย
3. Grocery Shopping : สั่งในแมป รับสินค้าที่ร้าน
อีก 1 ฟีเจอร์ใหม่ของ Google Maps คือการสั่งสินค้าทางออนไลน์ และเดินทางไปรับสินค้าที่ร้าน โดยฟีเจอร์นี้ใช้สั่งสินค้าจากร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต ช่วยประหยัดเวลาในการเดินหาสินค้า โดยเฉพาะในอาคารขนาดใหญ่อย่างไฮเปอร์มาร์เก็ต หลังจากสั่งสินค้าผ่านฟีเจอร์นี้ ร้านค้าจะเตรียมสินค้าให้ทันที และสามารถเดินทางไปรับสินค้าได้ภายใน 5 นาทีเท่านั้น
ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกา และกำลังจะเปิดใช้งานในไทยเร็วๆ นี้
4. User Generated Restaurant Information : ข้อมูลร้านอาหารจากลูกค้าตัวจริง
ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับอาหารการกิน นอกจากลูกค้าจะเข้าไปรีวิวและให้ดาวร้านอาหารได้แล้ว ล่าสุด Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ให้ลูกค้าที่เคยใช้บริการร้านอาหารต่างๆ สามารถเข้าไปเพิ่มข้อมูลของร้านอาหารได้ เช่น
- เรทราคา
- สิ่งอำนวยความสะดวก
- บริการเดลิเวอรี่ เป็นต้น
แม้ว่าธุรกิจจำนวนมากจะปรับตัวเข้าสู่ช่องทางการขายแบบออนไลน์ แต่ก็อาจมีสินค้าบางประเภทที่ต้องอาศัยประสบการณ์การซื้อแบบออฟไลน์อยู่ หรือต้องใช้ทั้ง 2 ช่องทางควบคู่กันไป ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Google Maps จึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจท้องถิ่นที่มีหน้าร้าน ช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน และเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างช่องทางออนไลน์กับออฟไลน์ได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :
- https://blog.google.com, Keep it chill this holiday with new tools from Google Maps
