ต้องยอมรับว่าแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ยังคงยึดตำแหน่งยืนหนึ่งบนโลกออนไลน์จากผู้คนทั่วโลกได้อย่างเหนียวแน่น แม้แต่ในเมืองไทยเองก็มีผู้ใช้งานมากจนติดอันดับที่ 8 ของโลก!! ซึ่งไม่เพียงแค่เล่น Facebook เพราะชื่นชอบหรืออยากคุยกับเพื่อนฝูง แต่ยังเป็นแหล่งตลาดออนไลน์สำคัญที่ทุกๆ ธุรกิจจะเข้าหากลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำขึ้นอีกด้วย ทำให้ Facebook Ads ค่อนข้างมีความหมายและบทบาทในการทำการตลาดออนไลน์แบบสุดๆ
ซึ่งประเภทของ Facebook Ads มีดังต่อไปนี้
1. Page Post Engagement
เป็นการลงโฆษณาบน Timeline ของผู้ใช้งานที่คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงเป๊ะ ไปพร้อมๆ กับการเลือกว่าจะให้โฆษณาโชว์ที่ Newfeed หรือแถบด้านข้าง หรือจะโชว์ทั้งสองจุดเลยก็ย่อมได้
ซึ่งการลงโฆษณาประเภทนี้เหมาะกับการโพสต์ขายตรงๆ ตามที่คุณเห็นกันบนหน้าฟีดทั่วไปนั่นแหละค่ะ เพราะคุณสามารถใส่เนื้อหาได้เยอะ อัปรูปได้มากกว่าประเภทไหนๆ และที่สำคัญคุณควรใช้ข้อความที่น่าสนใจและเลือกรูปภาพที่มีองค์ประกอบสวยงามเป็นหลัก เพื่อชวนให้กลุ่มเป้าหมายหยุดอ่านโพสต์นั้นๆ แล้วเข้าใจจุดประสงค์ทันทีว่าคุณขายสินค้าอะไรอยู่
2. Page Like
เป็นประเภทการลงโฆษณาที่จะแนะนำให้ผู้ใช้งานแห่กันเข้ามากด Like แฟนเพจของคุณแบบรัวๆ ซึ่งเหมาะมากๆ กับการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแฟนเพจ ยิ่งยอดไลก์เยอะ.. ความน่าเชื่อถือก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
3. Video Views
สำหรับใครที่อยากจะโปรโมทแบรนด์ด้วยคลิปวิดีโอ การลงโฆษณาประเภทนี้ถือว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะมันจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากยุคนี้ใครๆ ก็ชอบดูคลิปสั้นๆ มากกว่าการดูภาพนิ่ง แต่อย่าลืมเน้นความกระชับและสาระสำคัญให้ชัดเจนด้วยนะ
4. Event Responses
แบรนด์ไหนที่กำลังคิดแคมเปญอยู่ แล้วอยากให้มีคนมาร่วมงานเยอะๆ ต้องลองลงโฆษณาประเภทนี้ดูค่ะ ไม่ว่าจะงานปาร์ตี้ งานเปิดร้านสาขาใหม่ หรือเล่นเกมส์มันส์ๆ รับของรางวัลที่งานอีเว้นท์ ก็ตอบโจทย์แน่นอน เพราะ Facebook Ads ตัวนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าร่วมและสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี
5. Website Conversions
แบรนด์ไหนที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองและกำลังวางแผนที่จะโฆษณาเว็บไซต์อยู่ การลงโฆษณาประเภทนี้เหมาะสมมากๆ เพราะเป็นการเพิ่มปุ่ม Call-to-Action แล้วตั้งค่าให้เหมาะกับสิ่งที่คุณอยากสานสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เช่น Shop Now, Sign up ฯลฯ ลงไปในโฆษณา เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายสั่งซื้อสินค้าและบริการที่มากขึ้น แถมยังช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะ
6. App Installs
เหมาะกับแบรนด์หรือธุรกิจที่มีแอปพลิเคชั่นเป็นของตัวเอง และอยากลงโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมายโหลดแอปกันเยอะขึ้น ซึ่งถ้ากดปุ๊บ ก็จะสามารถติดตั้งแอปได้ปั๊บ อีกทั้งยิ่งดาวน์โหลดมาก ยิ่งเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีมากขึ้นเท่านั้น
7. Offer Claims
เป็นการโฆษณาเพื่อกระตุ้นยอดขายคล้ายๆ แบบ Page Post Engagement แต่แอบมีลูกเล่นกรุบๆ ที่น่าสนใจกว่า โดยจะทำให้กลุ่มเป้าหมายเหมือนได้รับสิทธิพิเศษจากการโชว์วันหมดอายุหรือจำนวนคนที่ใช้สิทธิ์ไปแล้ว และยังบอกการลดราคาที่ชัดเจนแจ่มแจ้งอีกต่างหาก แบบนี้ใครจะไปอดใจไหวกันละเนี่ย
และทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือประเภทต่างๆ ของ Facebook Ads ที่ซันนี่นำมาฝากเหล่าผู้ประกอบการกันในวันนี้ค่ะ หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจว่าคุณควรลงโฆษณาแบบไหนถึงจะตอบโจทย์กับสินค้าและบริการของแบรนด์มากที่สุด และที่สำคัญ! อย่าลืมวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายหลักและรองให้ดีเสียก่อน เพื่อให้ทุกๆ การทำ Facebook Ads มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หรือถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณจะทำได้หรือไม่.. แนะนำให้มีเพื่อนการตลาดออนไลน์อย่าง Sunnysideup Studio ไว้ข้างกายคุณดีกว่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย คิดกลยุทธ์การตลาด การสร้างคอนเทนต์ หรือแม้กระทั่งเทคนิคทำโฆษณาให้ดีกว่าคู่แข่ง ก็พร้อมจัดให้ครบวงจร! คลิกเลย : https://sunnysideupstudio.net/th/social-media-page