Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

Pet Parenting สังคมที่คนรุ่นใหม่เลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก

Pet Parenting คือการเลี้ยงสัตว์เหมือนเลี้ยงลูกจริงๆ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในสังคมปัจจุบัน ที่พ่อหมาแม่แมวต้องหาอาหารที่ดีที่สุด ห้องน้ำที่น้องเข้าแล้วสบายใจที่สุด ไปจนถึงที่นอน ของเล่นพรีเมียม เพื่อให้ลูกๆ สี่ขามีความสุข จนเกิดคำศัพท์ที่หลายๆ คนเรียกน้องๆ เหล่านั้นว่า ‘Fur Baby’

สาเหตุที่ทำให้เกิดเทรนด์ Pet Parenting

มาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่ความชอบส่วนบุคคล ไปจนถึงปัญหาใหญ่ๆ ระดับโลก

  • ความเป็นทาสหมา ทาสแมว หรือชื่นชอบน้องๆ ชนิดอื่นๆ 
  • เวลาว่างช่วงโควิดระบาดที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ 
  • เศรษฐกิจและสังคมที่แย่ลงจนคนไม่อยากมีลูก
  • รัฐสวัสดิการไม่จูงใจให้คนอยากมีลูก
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับเลี้ยงเด็กที่สูงกว่าการดูแลสัตว์เลี้ยง
  • ความกังวลถึงอนาคต ซึ่งมีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิต (โลกร้อน, PM 2.5)

ผลกระทบจากเทรนด์ Pet Parenting

ด้านสังคม : อัตราการเกิดต่ำ เกิดสังคมผู้สูงอายุในระยะยาว อ้างอิงจากข้อมูลประชากรไทยปี 2565 ที่มีอัตราการเกิดต่ำกว่าอัตราการเสียชีวิตและมีท่าทีว่าจะลดลงเรื่อยๆ แต่หากพิจารณาดูแล้ว เป็นเพราะปัญหามากมายบนโลกใบนี้มากกว่า ที่ทำให้คนไม่อยากมีลูกจนหันมาเลี้ยงสัตว์แทน 

ด้านธุรกิจ : กระแสดังกล่าวส่งผลกระทบด้านบวกต่อธุรกิจ เช่น

  • อาหารสัตว์
  • เสื้อผ้าสัตว์
  • สถานรับเลี้ยงสัตว์
  • สถานพยาบาลสัตว์
  • ประกันสัตว์เลี้ยง
  • ผลิตภัณฑ์/บริการสปา อาบน้ำ ตัดขนสัตว์

สรุปข้อมูลด้านการตลาดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

  • Euromonitor คาดการณ์ว่าธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ สูงขึ้นประมาณปีละ 7.2% ในระดับโลก และ 8.4% ในประเทศไทย
  • ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์เติบโตขึ้นทั้งคู่ แต่อาหารสัตว์เติบโตขึ้นในอัตราสูงกว่าเป็นเท่าตัว
  • Gen ที่นิยมเลี้ยงสัตว์แทนลูกส่วนมากเป็น Gen Y 77.3% Gen Z 12% และ Gen X 10.2%
  • 80% ของคนที่เลี้ยงสัตว์คือคนโสด
  • กว่า 49% ของคนเลี้ยงสัตว์เป็นลูก (สาเหตุอื่น เช่น เพื่อสถานะทางสังคม, เพื่อบำบัด เป็นต้น)
  • อัตราการเกิดของคนลดลง สวนทางกับอัตราการเลี้ยงสัตว์ที่พุ่งสูงขึ้น
  • คนที่เลี้ยงสัตว์กว่า 40.4% เลี้ยงสุนัข, 37.1% เลี้ยงแมว และ 22.6% คือสัตว์ Exotic
  • ค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ 1,001 – 2,000 บาท
  • บริการด้านดูแลสัตว์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคืออาบน้ำตัดขน รองลงมาคือฝากเลี้ยง สปานวด และทำเล็บ ตามลำดับ 
  • ค่าใช้จ่ายในการรับบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยที่ 1,000 – 3,000 บาท โดยมักเลือกจากทำเลเป็นหลัก รองลงมาคือความน่าเชื่อถือ
  • 43.3% เลือกรักษาสัตว์ที่คลินิกเอกชน, 41.2% ที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชน และ 9.8% รักษาในโรงพยาบาลสัตว์รัฐบาล

สำหรับใครที่กำลังเล็งๆ อยากลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ยังนับว่าน่าสนใจอยู่ แต่จะใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดแบบไหน ซันนี่จะมาเล่าให้ฟังในครั้งหน้า อย่าลืมเข้ามาติดตามกันนะคะ 😊

ขอบคุณข้อมูลจาก