ถ้าพูดถึงกระแส Top Spender ที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าแบรนด์หนึ่งที่เพิ่งจัดแคมเปญไปหมาดๆ เพื่อให้บรรดาแฟนคลับได้สิทธิเข้าไปมีทแอนด์กรี๊ดกับนักแสดง ‘พัคซอจุน’ หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากันในนาม ‘พัคแซรอย’ จากซีรี่ส์ดัง Itaewon Class
Top Spender คืออะไร?
คือแคมเปญที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มียอดซื้อสินค้าสูงสุดได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันบ่อยๆ คือให้ผู้ที่เป็น Top Spender ได้เข้างาน Meet & Greet, ทานข้าว, เข้างาน Fansign หรือทำกิจกรรมต่างๆ กับนักแสดง/ศิลปิน ที่ชื่นชอบ
และแบรนด์ต่างๆ มักจะจำกัดปริมาณ Top Spender เอาไว้ในจำนวนไม่มาก เพื่อให้งานดังกล่าวเต็มไปด้วยความพิเศษสุดๆ ที่จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เข้าร่วม นั่นจึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่แคมเปญนี้ดุเดือดไฟลุก เพราะต้องแย่งชิงกันนั่นเองค่ะ
ประโยชน์ที่แบรนด์ได้จากแคมเปญ Top Spender
แน่นอนว่าหลักๆ คือยอดขายมหาศาลที่มาจากการแย่งชิงของแฟนคลับ บางแคมเปญสูงถึงหลักหลายร้อยล้าน เพราะแค่แฟนคลับท่านเดียวก็มียอดซื้อสินค้าปาเข้าไปถึงหลักสิบล้านแล้วค่ะ
แบรนด์ประเภทใดควรจัดแคมเปญนี้?
- รู้จักตัวเอง ว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นอย่างไร
- รู้จักนักแสดง/ศิลปิน/เซเลป ว่ามีภาพลักษณ์หรือคาร์แรคเตอร์ที่เข้ากับแบรนด์ของเราไหม
- พิจารณาวัฒนธรรม (Culture) ของแฟนคลับ ของศิลปินที่แบรนด์เลือกไว้ ว่าเหมาะสำหรับจัดกิจกรรมนี้หรือไม่ เพราะก็มีศิลปินหลายท่านเหมือนกันค่ะ ที่มีแฟนคลับเยอะสุดๆ คนรู้จักเพลงเต็มไปหมด แต่คัลเจอร์ของแฟนด้อมไม่นิยมเปย์ศิลปินในรูปแบบนี้ 😅
- แฟนคลับควรเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ หรือใกล้เคียง
ประโยชน์ที่ศิลปินและแฟนคลับได้จากแคมเปญนี้
สำหรับศิลปิน นี่คือการเพิ่ม Brand Value ลองนึกภาพตามว่าแบรนด์หนึ่งจ้างนักร้องท่านหนึ่งมาเพื่อจัดแคมเปญ Top Spender แล้วยอดขายพุ่งทะลุไปถึงหลักสามร้อยล้าน เท่ากับว่า นี่คือเครื่องยืนยันว่าศิลปินท่านนี้มีคนรักและชื่นชอบอยู่เยอะมาก แฟนคลับพร้อมให้การซัพพอร์ตสุดๆ นี่จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับศิลปินคนดังกล่าวได้ต่อยอดในอีกหลายๆ ทางเลยค่ะ
สำหรับแฟนคลับ นี่คือโอกาสที่จะได้สนับสนุนคนที่เรารักเต็มๆ นอกจากจะได้มีโอกาสใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นการแสดงออกว่าไม่ว่าศิลปินที่เราชอบจะมีงานอะไร เราก็พร้อมซัพพอร์ตอยู่ตรงนี้เสมอค่ะ
อย่างไรก็ตาม แคมเปญนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับแฟนคลับทุกกลุ่ม เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะจอยการทุ่มเงินเยอะๆ ไปแบบไม่ได้การันตีว่าเราจะได้สิทธินั้นรึเปล่า บ้างก็มองว่าเก็บเงินไว้ไปซื้ออัลบั้ม ซื้อบัตรคอนเสิร์ต หรืองานที่แน่นอนว่าจะได้เข้าไปรับชมคุ้มกว่ากันเยอะ
แต่บ้างก็มองว่า ต่อให้เข้าร่วมกิจกรรม Top Spender แล้วจะยอดไม่ถึงก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ส่งแรงเชียร์ และเพิ่ม Brand Value ให้ศิลปินที่เรารักได้เหมือนกัน
หัวใจคนเป็นติ่งอ่ะเนอะ (เราก็เป็น เราเข้าใจ 🥲)
แล้วคุณล่ะคะ เคยซัพพอร์ตศิลปินที่ชื่นชอบในรูปแบบไหนกันบ้าง 😉💕
ขอบคุณข้อมูลจาก
- Everyday Marketing : https://bit.ly/3RW0RU4