ขายของก็ว่ายากแล้ว ขายในโลกออนไลน์ยิ่งซับซ้อนเข้าไปอีก และถ้าจะขายโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น Gen Z แล้วล่ะก็.. ยิ่งสับสนว่าเราต้องใช้การตลาดรูปแบบไหนดีนะ ถึงจะซื้อใจพวกเขาได้?
Gen Z เป็นเจนฯ ที่น่าสนใจซึ่งผู้ทำธุรกิจหลายคนมองข้าม เพราะยังติดภาพเด็กที่ไม่มีกำลังซื้อกันอยู่ แต่อันที่จริงแล้วคนเจนฯ นี้ กำลังจะกลายมาเป็นกำลังซื้อหลักของโลกเรา
ฉะนั้น จึง ควร ให้ ความ สำ คัญ อย่าง ยิ่ง!
Gen Z คือวัยไหน?
คือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ.1996 – 2012 อายุประมาณ 11 – 27 ปี ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เด็กวัยประถม ไปจนถึงวัยทำงาน
Gen Z แตกต่างจาก Gen อื่นยังไง?
Boomer และ Gen X โตมากับยุคอะนาล็อก
Gen Y หรือ Millenial โตมากับการปรับตัวและเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกสู่ดิจิทัล
ส่วน Gen Z คือ Digital Native เป็นกลุ่มที่โตมากับความเป็นดิจิทัลโดยแท้
การเติบโตมาในยุคที่ต่างกัน ย่อมส่งผลต่อความคิดและทัศนคติ ‘ยุคโลกาภิวัตน์’ ทำให้ Gen Z คือช่วงวัยที่เห็นโลกกว้างกว่า และไกลกว่ามาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยข้อมูลที่มากมายและช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าโดยตรง
ปัจจัยที่ทำให้ Gen Z ตัดสินใจซื้อสินค้า
คุณภาพ ราคา และความคุ้มค่าของสินค้ายังคงมีผล แต่คนเจนนี้มอง ‘ความตระหนักรู้’ และ ‘ความจริงใจ’ ของแบรนด์เป็นสำคัญ เช่น การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ความเท่าเทียม ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
เท่ากับว่า Gen Z มีเงื่อนไขและปัจจัยในการซื้ออะไรสักอย่างเยอะกว่าคนวัยอื่น มี Loyalty ต่อแบรนด์น้อยลง พร้อมจะเปลี่ยนใจไปหาแบรนด์อื่นได้ทุกเมื่อ หากสินค้า บริการ และจุดยืนของแบรนด์ตอบโจทย์ตนเองมากกว่า
เทคนิคการตลาดตกคน Gen Z
ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป แบรนด์ต่างๆ ก็ต้องปรับตัวตาม มาดูทริคการตลาดที่จะช่วยให้เราเข้าไปนั่งในใจชาว Gen Z ได้กันดีกว่าค่ะ 😉
1. สื่อสารเหมือนเป็นเพื่อน
ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่ใช้ เนื้อหาที่จะสื่อ วิธีและจริตการพูด ที่ให้ความรู้สึกว่า ‘เราคือพวกเดียวกัน’ จะทำให้ Gen Z เปิดใจรับสารของเรามากกว่า
2. อย่าพูดอย่างเดียว ต้องทำให้เห็นด้วย
‘แค่พูด’ ใครๆ ก็ทำได้ใช่ไหมคะ แต่การทำให้เห็นนี่สิยาก การสร้างความเชื่อใจอาจต้องใช้เวลา แต่ถ้าทำได้เมื่อไหร่ บอกเลยว่าผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอน
3. อย่ามองข้าม Gen Z ในองค์กร
ถ้าในองค์กรของเรามี Gen Z อยู่ล่ะก็ การปรึกษาหารือและเปิดโอกาสให้แชร์ความเห็น ก็เป็นอีกหนึ่ง Movement ที่น่าลองทำค่ะ นอกจากจะเป็นการปรับมุมมองจากภายใน ยังช่วยให้สารที่จะสื่อต่อลูกค้า Gen Z ของเราเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย
4. จุดยืนตรงใจ
การขับเคลื่อนสังคมในยุคนี้ ไม่ใช่แค่ความคิดเห็นส่วนตัวอีกต่อไป แต่คือหนึ่งในองค์ประกอบที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์
แบรนด์ที่มีจุดยืนทางสังคมชัดเจน มีการสนับสนุนที่ทำให้เห็นอย่างสม่ำเสมอ ย่อมซื้อใจ Gen Z ที่มีจุดยืนในเรื่องเดียวกันได้มากกว่าแบรนด์ที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้ เพราะสำหรับ Gen Z นี่ก็เหมือนการได้สนับสนุนเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกันค่ะ
5. สร้างตัวตนของแบรนด์ให้ชัดเจน
เราเป็นใคร มีคุณค่าอย่างไร อัตลักษณ์แบรนด์เป็นแบบไหน ดึงออกมาให้หมด! แบรนด์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเองชัดเจน จะดึงดูดความสนใจจากคนที่มีรสนิยมใกล้เคียงมาได้ง่ายกว่าแบรนด์ที่ไม่มีจุดเด่น
6. ตามกระแสให้ไว้ ปรับตัวให้ทัน
เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เร็ว เทรนด์ที่ดูเหมือนจะดีในอาทิตย์ก่อน อาจจะกลายเป็นเรื่องบ้งในอาทิตย์นี้ การที่แบรนด์ติดตามข่าวสาร ดูทิศทางความต้องการของผู้บริโภคตลอดเวลา ย่อมทำให้เราปรับตัวและปรับปรุงแผนต่างๆ ได้เร็วกว่าแบรนด์ที่นิ่งเฉยค่ะ
สรุปแล้ว จะตกคน Gen Z ได้ ต้องเอาใจแลกใจ 💖 แล้วอย่าลืมรักษามาตรฐานเหล่านี้เอาไว้ ลูกค้าจะได้อยู่กับเรานานๆ นะค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก
