ทำไมแพลตฟอร์มต่างๆ จึงมักจะแทรกคลิปสั้นให้เราดูอยู่เรื่อยๆ นั่นก็เพราะยุคสมัยแห่งวิดีโอกำลังมา เนื่องจากคอนเทนต์วิดีโอเป็นอะไรที่ย่อยง่าย ดูเพลิน โดยเฉพาะคลิปวิดีโอสั้นที่ใช้เวลาดูไม่นานก็รับสารได้อย่างรวดเร็ว (และสามารถขายของได้แบบไม่น่าเบื่อด้วยค่ะ!)
ใครที่กำลังหาไอเดียสำหรับสร้าง “วิดีโอคอนเทนต์” แต่ยังคิดไม่ออก มาดูได้เลยทางนี้ ซันนี่รวบรวมไอเดียที่น่าสนใจไว้ให้แล้วค่ะ 🌞

1. How to/Educational
คือคลิปวิดีโอที่บอกวิธีทำสิ่งต่างๆ มีทั้งการสอนอย่างเป็นขั้นตอน หรืออาจจะเป็นการเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆ ที่น่าสนใจ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ “มือใหม่” โดยคลิปไม่จำเป็นต้องมีความจริงจังเหมือนคลิปวิดีโอของสถาบันสอนพิเศษ ในทางกลับกัน คลิปที่ดูบ้านๆ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย อาจทำให้คนเข้าถึงได้ดีกว่าค่ะ
ทั้งนี้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นการสอนแนววิชาการเท่านั้น หากเรามีความถนัดเรื่องไหน ก็สามารถแชร์ความรู้ให้คนอื่นได้เลย! ไม่ว่าจะเทคนิคการแต่งตัว, การตกแต่ง IG Story หรือวิธีทำ Icon น่ารักเพื่อใช้ใน Laptop/Taplet ก็สามารถสร้างเป็นคอนเทนต์ได้นะคะ 😉
ตัวอย่างวิดีโอให้ความรู้ เช่น
- สอนวิธีทำกับข้าวเมนูต่างๆ
- สอนงานช่าง โดยถ่ายคลิปให้ดูทีละขั้นตอน
- บอกเล่าเทคนิคการทำคลิป ว่าทำอย่างไรให้มีคนดู
- ให้ความรู้ด้านวิชาการ เช่น สอนวิชาคณิตศาสตร์, การเงิน, กฎหมาย
- สอนวาดภาพง่ายๆ ในโทรศัพท์
- สอนวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยคลิปแนวนี้ สามารถนำไปสู่การสร้างรายได้ด้วยวิธีแปะ Affiliate Link อีกด้วยค่ะ

2. Room Tour
เรามักจะเห็นคลิปดาราหรือ Youtuber เปิดบ้านโชว์ใช่ไหมล่ะคะ นี่คือหนึ่งในคอนเทนต์ประเภทนั้นเลยค่ะ! การทำคลิปโชว์บ้าน, โชว์ห้อง หรือแม้แต่พาทัวร์บริษัท คือคอนเทนต์ที่ดูเพลิน เหมือนเพื่อนกำลังพาเที่ยว โดยเราอาจแบ่งหมวดหมู่ออกได้คร่าวๆ ดังนี้
ทัวร์บ้าน/ห้องส่วนตัว : คลิปแนวนี้มักจะเป็นคนที่แต่งห้องสวย เน้นการแต่งห้องโชว์ หรือรีวิวของแต่งห้องและอุปกรณ์ที่น่าสนใจ เช่น โคมไฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศ, พรมเช็ดเท้า หรือของอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ด้วยวิธี Affiliate Link ค่ะ (แอคเคาท์ TikTok บางคน พาทัวร์แค่ห้องนอน แต่ยอดวิวหลักล้าน สร้างรายได้มหาศาลมาแล้วนะคะ!)
โชว์โต๊ะทำงาน : คลิปแนวนี้มักเป็นคนที่ต้องทำงานอยู่บ้านหรือต้องอ่านหนังสือค่ะ (ในIG จะเรียกกันว่าแนว “Studygram”) สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ด้วยการรีวิวของแต่งโต๊ะ หรือโชว์ไลฟ์สไตล์ว่าเวลาทำงานเราทำอะไรบ้าง เช่น จับเวลาแบบ Pomodoro, ดื่มกาแฟแบบไหน และสามารถสร้างคอนเทนต์แนว Work With Me คือตั้งกล้องถ่ายตัวเองให้เหมือนกำลังทำงานเป็นเพื่อนค่ะ
ทัวร์ Office : เป็นแนวทางการนำเสนอภาพลัพษณ์ของบริษัทได้ดีอีกช่องทางหนึ่งค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าของเราได้เห็นบรรยากาศการทำงาน สร้างความรู้สึกไว้วางใจ ยังทำให้คนทั่วไปได้เห็นความสนุกสนาน และเข้าถึงคนได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ

3. Reviewer/Influencer
สายรีวิวพูดเก่งๆ มาทางนี้ ลองหาสิ่งที่ตัวเองถนัดและชอบ แล้วลองจับสิ่งนั้นมาเป็นจุดขายดูค่ะ ยกตัวอย่างเช่น สายแต่งหน้าก็สามารถสร้างคอนเทนต์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สอนแต่งหน้า, แนะนำเครื่องสำอาง, อัปเดตของน่าซื้อ, Favorite Item ของชิ้นไหนใช้แล้วชอบ
การเป็นนักรีวิวและอินฟลูฯ นั้น มีทั้งสายไลฟ์สไตล์ เช่น รีวิวอาหาร, รีวิวร้านคาเฟ่เปิดใหม่ หรืออาจเป็นสายเทค รีวิวอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Mechanical Keyboard , Gamimg Laptop รุ่นใหม่มาแรง รวมไปถึงสายการเงินและประกัน ที่มักจะมาแนะนำบัตรและแพ็คเกจต่างๆ เลยทีเดียวค่ะ

4. เกาะทุกกระแส ตามติดทุกเทรนด์
หากเป็นยุคก่อนหน้านี้ การจะอัปเดตข่าวสารแต่ละอย่างต้องดูข่าวในโทรทัศน์ แต่ในยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าหลายคนชอบฟังสรุปสั้นๆ จากคลิปที่มีคนมา “เล่าให้ฟัง” มากกว่า นอกจากจะดูง่าย ย่อยง่ายแล้ว ยังแชร์ง่ายด้วยค่ะ การตามเทรนด์และคอยอัปเดตเรื่องต่างๆ จึงสามารถสร้างคอนเทนต์ได้ดี ยกตัวอย่างเช่น
- อัปเดตข่าวสาร เช่น มติในสภา, ร่างกฎหมายใหม่
- อัปเดตข่าวบันเทิง
- ตามติดฟีเจอร์น่าสนใจของ Platform ต่างๆ ว่ามีอะไรใหม่ ใช้อย่างไร
- เทรนด์กระเป๋ามาแรง รุ่นไหนขายดี
- อัปเดตสินค้าใหม่ของธุรกิจที่คุณกำลังดูแลอยู่
ข้อควรระวัง : เนื้อหาและข้อมูลที่นำมาเล่า ควรมีการค้นคว้าและมีแหล่งที่มาชัดเจน ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการเผยแพร่ความเข้าใจผิดได้ง่ายๆ เลยค่ะ

5. โชว์เบื้องหลัง
คอนเทนต์แนวนี้จะคล้ายกับแนว Room Tour แต่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร, ร้านขนม, เอเจนซี่, แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ และธุรกิจอื่นๆ โดยเป็นการเล่าเรื่องถึงเบื้องหลังธุรกิจของเรา ว่าในแต่ละวัน เราและพนักงานต้องทำอะไรบ้าง กว่าจะได้ผลิคสินค้าออกมาได้ เช่น
- การ Brainstorm ของทีมใน Digital Agency
- การเตรียมวัตถุดิบ และขั้นตอนการทำอาหารในครัวของร้านอาหาร (สร้างคอนเทนต์ได้ดี ทั้งร้านที่มีหน้าร้าน และร้านที่ขายผ่านแอปฯ เลยค่ะ!)
- คลิปชงเครื่องดื่มในร้านกาแฟ
- เบื้องหลังการสร้างแบรนด์เสื้อผ้า เช่น การดีลกับโรงงานและการส่งของหลักร้อยชิ้น

6. ตอบคำถามด้วย Q&A
การสร้างคอนเทนต์ด้วยการตอบคำถามสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ หรือแนวไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงตอบเรื่องส่วนตัวค่ะ
คอนเทนต์แนวนี้สามารถดึงดูดให้คนสนใจได้ดี เพราะมักจะเปิดมาด้วยคำถามในช่วงต้น และคนจะรอฟังคำตอบในช่วงท้าย ทำให้นอกจากจะได้ยอดวิวแล้ว คนดูยังมีระยะเวลาในการดูคลิปของเรานาน ส่งผลดีต่ออัลกอริทึมด้วยค่ะ

7. Vlog
คอนเทนต์ประเภทนี้มักจะเป็นการโชว์ไลฟ์สไตล์ ให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนมีเพื่อนกำลังพาเราไปที่นั่นที่นี่ด้วย เช่น
- พาเที่ยวต่างจังหวัด 3 วันด้วยงบ 1,000 บาท
- พาเที่ยวเกาหลี โดยบอกเล่าทั้งปัญหาที่เจอ การผ่านตม. โรงแรมที่พัก และอาหารที่กิน
- วันสบายๆ เช่น คอนเทนต์จัดต้นไม้ อาบน้ำแมวอยู่ที่บ้าน
- ไปนั่งชิลล์ที่คาเฟ่
- Vlog ที่ไม่ต้องพูดอะไร แค่ถือกล้องแล้วพาเดินไปในที่ต่างๆ

8. ขายขำ
ความบันเทิงคือสิ่งที่เข้าถึงคนได้ง่าย เราสามารถเห็นคลิปตลกๆ ได้มากมายใน TikTok และ Reels โดย Content Creator เหล่านั้นไม่จำเป็นต้องมานั่งเล่ามุกตลกเหมือนรายการในสมัยก่อน แต่อาจเป็นการตัดคลิปประกอบกับเพลง หรือเล่นกับซาวด์ที่กำลังเป็นกระแส เช่น
- ล้อเลียนเบื้องหลังการสร้าง Video Content ว่ากว่าจะได้แต่ละคลิปมายากลำบากขนาดไหน เช่น Instagram vs Reality
- Camera Eat First คือการแซะคนที่ไปกินข้าวกับเพื่อน แต่ไม่ได้กินสักที เพราะมัวแต่รอเพื่อนถ่ายรูปอยู่
- ถ่ายคลิปแมวที่บ้านกำลังพังชั้นวางของ ประกอบกับเพลง “อยากไปอยู่วัดดดด”
นอกจากนี้ยังมีการสร้างวิดีโอคอนเทนต์ที่น่าสนใจมากมาย การจะสร้างคอนเทนต์ที่ดีได้ ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟ็กต์ แต่การลงคลิปที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอต่างหาก คือสิ่งที่จะดึงดูดให้คนดูต่อไปได้เรื่อยๆ ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://bit.ly/3USqu7K