Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

เพราะเรื่องการตลาดมันรอไม่ได้! สรุปมาให้แล้วกับ 7 Twitter Trends ในปี 2021

“Twitter” เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ผู้คนทั่วโลกใช้เสพข่าวสารและนำเสนอคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างมีอิสระและรวดเร็ว ซึ่งในฐานะที่ซันนี่เป็นนักการตลาดออนไลน์ จึงทำการรวบรวมแนวโน้มหรือทิศทางของ Twitter  ในปี 2021 มาฝากผู้ประกอบการทุกท่านค่ะ

“เพราะเรื่องการตลาดมันรอไม่ได้” เราเลยต้องเตรียมแผนการไว้ให้ดีและแม่นยำ เพื่อนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ให้ฮิตติดตลาดและก้าวนำคู่แข่งไปอีกขั้น! จะมีเทรนด์อะไรบ้างไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

1. Twitter กลายเป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นในการตามข่าวสาร

     โดยปัจจุบันใครๆ ก็หันมาเสพข่าวด่วน ข่าวที่กำลังมาแรง หรือข่าวไวรัลกันบนทวิตเตอร์มากขึ้น ซึ่ง 42% ของผู้ใช้นั้นเชื่อว่าข่าวบนทวิตเตอร์มีความน่าเชื่อถือ แม่นยำ และสามารถติดตามข่าวสารได้ก่อนที่สื่อหลักจะเสนอข่าวซะอีก อีกทั้งผู้นำระดับโลกไปจนถึงคนดังในแวดวงต่างๆ ที่สื่อหลักไม่อาจเข้าถึงได้ (ในบางครั้ง) ก็ยังให้สามารถทวีตเนื้อหาหรือข่าวด่วนผ่านทางทวิตเตอร์ของพวกเขาได้เอง

2. ขยายขีดจำกัด เพิ่มตัวอักษรในการโพสต์เป็น 280

     แม้จะสามารถทวีตข้อความได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ผู้ใช้ทวิตเตอร์กว่า 95% ยังคงเคยชินกับการเขียนโพสต์ในรูปแบบข้อความสั้นๆ เน้นเนื้อหาที่กระชับแต่ได้ใจความเหมือนเดิม ซึ่งทาง Twitter ก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้ใช้แค่ 5% เท่านั้นนะที่ใช้งานตัวอักษรจนครบทั้ง 140 ตัว

3. สื่อแบบ Visual Communication จะครองทวิตเตอร์

     ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าบนโลกออนไลน์ตั้งแต่ปี 2020 กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยสื่อประเภท Video มากขึ้น ซึ่งกว่า 54% ของผู้ใช้สื่อออนไลน์ ชื่นชอบคอนเทนต์ในแบบวิดีโอ และ 56% จะชอบตามข่าวสารผ่านอีเมล ส่วนอีก 41% จะชอบคอนเทนต์ในแบบรูปภาพและกราฟิก

     ซึ่งข้อดีของสื่อวิดีโอบนทวิตเตอร์มีความดึงดูดการมีส่วนร่วมได้มากกว่าการทวีตที่ไม่มีวิดีโอมากถึง 10 เท่า เพราะเหตุผลนี้เอง.. เลยทำให้วิดีโอเป็นกำลังจะครอบครองและกลายเป็นศูนย์กลางของการเข้าถึงผู้ใช้ Twitter ได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการทวีตคลิปสั้น หรือการไลฟ์สดต่างๆ

4. Tweets จะสามารถค้นเจอบนเว็บ Search Results

     ในปัจจุบันผู้ใช้สื่อออนไลน์สามารถค้นหาข้อมูลหรือข้อความต่างๆ ที่เคยทวีตได้ และกว่า 60% ของแบรนด์ที่มีบัญชีบน Twitter จะปรากฎอยู่ในหน้าของบนเว็บ Search Results ต่างๆ เช่น Google หรือ Yahoo! ซึ่งคุณสามารถสร้างประโยชน์จากทวิตเตอร์ เพื่อให้ข้อความนั้นๆ ปรากฎในการค้นหาบนเว็บ Search Results ได้เหมือนกันนะ เช่น ใช้แฮชแท็กยอดนิยม, ทวีตเนื้อหาที่น่าสนใจ, ตอบกลับและรีทวิต เป็นต้น

5. Twitter กลายเป็นกระบอกเสียงของโลกแบบเรียลไทม์

เนื่องจากการเติบโตของทวิตเตอร์ ที่เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ผู้ใช้สามารถแสดงตัวตนและพูดคุยได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้เรียนรู้ที่จะปรับตัวและใช้ทวิตเตอร์ในการเป็นกระบอกเสียงให้กับโลกในด้านต่างๆ ดังนี้ 

 – การเมือง เพื่อสร้างความตระหนักทางการเมือง และเผยแพร่ข้อความหรือแคมเปญต่างๆ
 – วิทยาศาสตร์ เพื่อรวบรวมข้อมูลภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆ และนำข้อมูลนั้นมาค้นหาทางออกที่ดีขึ้น
 – ธุรกิจ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภคแบบเรียลไทม์
 – ข่าวและวารสารศาสตร์ เพื่อช่วยฝึกทวีตเนื้อหาที่น่าสนใจหรือข่าวสารต่างๆ ให้แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
 – ความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ความจริงหรือหลอกลวง ก็สามารถตัดสินใจเหตุการณ์ต่างๆ ได้จากการทวีตระหว่างคุณกับผู้อื่น
 – สื่อบันเทิงและคนดัง เพื่อติดตามข่าวสารหรือไลฟ์สไตล์โดยตรงจากคนดัง

6. Twitter ดันพฤติกรรมการช้อปออนไลน์ให้เติบโต

     ต้องยอมรับเลยว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์คือ “ผู้บริโภคชั้นยอด” ที่ชื่นชอบการชอปปิ้งออนไลน์ แต่ก่อนจะซื้อนั้นก็จะทำการอ่านรีวิวมาอย่างดีจากแฮชแท็กต่างๆ เช่น #Makeup และ #Skincare และกว่า 40% ตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากเห็นโฆษณาบนทวิตเตอร์ ซึ่งธุรกิจความงามและเครื่องสำอางก็ยังคงครอบใจสาวๆ และมาแรงอย่างต่อเนื่องในปี 2020 อีกทั้งคอนเทนต์ความงามที่มียอดแชร์มากที่สุดก็ตกเป็นของคอนเทนต์แบบรูปภาพนั่นเอง

7. Twitter Fleets แชร์ข่าวสารได้สบายใจมากขึ้น

     เป็นที่รู้กันว่าฟีเจอร์ Stories ค่อนข้างถูกใจผู้ใช่สื่อออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะเนื้อหาที่แชร์จะหายไปใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งทาง Twitter พบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกเครียดเวลาทวีตข้อความว่าจะมียอด Like เท่าไหร่ หรือมีคน Retweet เยอะแค่ไหน แถมยังต้องเตรียมรับมือกับ Feedback มากมายจากสังคมอีกด้วย ส่งผลให้ Twitter เปิดตัวฟีเจอร์น้องใหม่อย่าง “Fleets” ที่อยู่แท็บใหม่ตรงด้านบนสุดของหน้าแรก โดยผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนกับ Stories Instagram เลยล่ะค่ะ



ที่มา : Financesonline.com และ Thestandard.com

 

 

Leave a comment