Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

ยิงแอด Facebook อัดงบเท่าไหร่ถึงจะได้ยอดขายในฝัน?

ยิงแอด Facebook อัดงบเท่าไหร่ถึงจะได้ยอดขายในฝัน?

สำหรับมือใหม่หัดซื้อโฆษณาเฟสบุ๊คหลายๆคน นี่คงเป็นคำถามยอดฮิต ว่าควรจะใช้งบเท่าไหร่ ลงเงินแค่ไหนถึงจะได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ และได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด

แต่ในความเป็นจริงแล้วการที่โฆษณา 1 ตัว จะสร้างยอดขายได้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ซื้อโฆษณานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งกลุ่มเป้าหมายที่เลือก คอนเทนต์ที่ทำ รวมไปถึงระยะเวลาที่เผยแพร่โฆษณานั้นๆ เงินจึงไม่ใช่ตัวแปรเดียวที่ทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพและสร้างยอดขาย

5 ปัจจัยหลักที่มีผลกับประสิทธิภาพของโฆษณา
5 ปัจจัยหลักที่มีผลกับประสิทธิภาพของโฆษณา

1. สินค้า

สินค้าที่มีการแข่งขันสูง กลุ่มลูกค้ามีจำกัด ย่อมต้องใช้งบประมาณโฆษณาสูงกว่าสินค้าที่มีการแข่งขันต่ำเป็นธรรมดา สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน มักต้องจ่ายค่าโฆษณาแพงกว่าสินค้าที่มีการแข่งขันต่ำกว่า เช่น สินค้าแหวกแนวที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

2. กลุ่มเป้าหมาย

ก่อนซื้อโฆษณา จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายก่อน ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร คนแบบไหนที่จะต้องการสินค้าของเรา และมีโอกาสกลายเป็นลูกค้า เพราะหากคอนเทนต์ดี สินค้าดี งบโฆษณาสูง แต่ยิงไปไม่โดนกลุ่มเป้าหมาย โฆษณาตัวนั้นก็ไม่สามารถสร้างยอดขายได้เท่าที่ควร

3. คุณภาพของคอนเทนต์

หากมีสินค้าที่ดีแล้ว ก็ต้องมีการนำเสนอที่ดีด้วย ซึ่งในส่วนนี้กลุ่มเป้าหมายจะเป็นตัวกำหนดทิศทางคอนเทนต์ เมื่อเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ก็จะสามารถบอกได้ว่า

– กลุ่มเป้าหมายจะชอบเสพคอนเทนต์ประเภทไหน
– ควรจะเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มไหน
– นำเสนอสินค้าอย่างไรให้น่าสนใจ และกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายต้องการสินค้าได้ เป็นต้น

4. งบประมาณ

ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า กำไรของสินค้าแต่ละชิ้น และกลุ่มเป้าหมายที่เราส่งโฆษณาไป เนื่องจากการซื้อโฆษณาเฟสบุ๊คเป็นการประมูลพื้นที่หน้าฟีดของลูกค้า กลุ่มเป้าหมายที่มีการประมูลเยอะ ราคาก็จะสูงตามไปด้วย เช่น งบโฆษณาสำหรับสินค้าแฟชั่นจะแพงกว่าสินค้าประเภทของแต่งบ้าน เป็นต้น

5. ระยะเวลา

การยิงโฆษณากับกลุ่มเป้าหมายใหม่ในครั้งแรก ต้องอาศัยระยะเวลาให้อัลกอริทึ่มของแพลตฟอร์มประมวลผล เพื่อค้นหาคนที่มีแนวโน้มสนใจสินค้ามากที่สุดจากกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดที่ตั้งไว้ โดยอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 วัน จึงจะเห็นผล หลายๆคนเมื่อเห็นว่าโฆษณาไม่ได้ผลภายใน 2-3 วันแรกก็ไปปิดโฆษณาเสียก่อน ทั้งๆที่โฆษณานั้นอาจจะมีประสิทธิภาพในภายหลังได้

ควรตั้งงบประมาณเท่าไหร่?
ควรตั้งงบประมาณเท่าไหร่?

เฟสบุ๊คกำหนดให้สามารถลงเงินได้เริ่มต้นตั้งแต่วันละ 30 บาท แต่ในสถานการณ์ที่การตลาดออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้น ในการซื้อโฆษณาครั้งแรกๆ จึงควรตั้งงบไว้อย่างต่ำวันละ 100 – 300 บาท จึงจะเห็นผล

หากยิงโฆษณาทดสอบด้วยงบวันละ 100 – 300 บาท แล้วได้ผลตอบแทนน่าพึงพอใจ ขายสินค้าได้และมีกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งเป้าไว้ อาจจะเพิ่มเป็นวันละ 500 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับสัดส่วนกำไรที่เรารับไหว

สำหรับธุรกิจที่เคยขายผ่านช่องทางออฟไลน์มาก่อน และขยับมาทำช่องทางออนไลน์แรกๆ อาจใช้วิธีย้ายงบประมาณที่ใช้โฆษณาทางช่องทางออฟไลน์ มาลงในการซื้อโฆษณาออนไลน์ก็ได้เช่นกัน เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า และกำหนดขอบเขตงบโฆษณาไม่ให้บานปลาย

งบประมาณยิ่งเยอะยิ่งดี?
งบประมาณยิ่งเยอะยิ่งดี?

หลายคนคิดว่ายิ่งมีงบยิงโฆษณาเยอะก็ยิ่งดี แต่ในความจริงไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป

– หากใส่งบเยอะเกินไป ไม่สัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายที่มีน้อย จะทำให้โฆษณาถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายคนเดิมซ้ำๆหลายๆรอบ เมื่อผู้ชมเห็นโฆษณาบ่อยเกินไปก็จะเกิดความรำคาญ จนไม่สนใจสินค้าเลยก็ได้

– หากใส่งบน้อยเกินไปในขณะที่กลุ่มเป้าหมายกว้าง ก็จะทำให้โฆษณาถูกกระจายไปได้ไม่ทั่วถึง และอาจพลาดโอกาสที่จะเจอลูกค้าที่สนใจสินค้าเราจริงๆ

ต้นทุนค่าโฆษณาที่เหมาะสมไม่เท่ากัน

สุดท้ายนี้ สินค้าแต่ละชนิดมีต้นทุนค่าโฆษณาที่เหมาะสมไม่เท่ากัน สินค้าที่สัดส่วนกำไรต่อชิ้น (Margin) สูง อาจตั้งงบโฆษณาไว้สูงกว่าสินค้าที่มีกำไรต่ำได้ ในขณะที่สินค้าที่มีกำไรต่อชิ้นต่ำ อาจต้องควบคุมต้นทุนค่าโฆษณามากกว่า หรือใช้วิธีการขายสินค้าเป็นเซ็ต เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าหลายๆชิ้นในออร์เดอร์เดียว 

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในแพลตฟอร์ม พฤติกรรมผู้บริโภค การแข่งขันที่สูงขึ้นหรือต่ำลงของสินค้าแต่ละชนิด ก็ส่งผลกับประสิทธิภาพของโฆษณา ต้นทุนค่าโฆษณาจึงไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ และความสามารถในการพลิกแพลงตามสถานการณ์

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : 

  • www.webfx.com, How Much Does Facebook Advertising Cost in 2021?
  • sixads.net. Facebook Ads Cost: The Latest Statistics & How to Spend Less

 

Leave a comment