ถ้าจะให้พูดถึงตำแหน่งที่มีความสำคัญในสายงาน Digital ก็คงต้องมีชื่อของ AE หรือ Account Executive เข้ามาปรากฏอยู่ในตำแหน่งงานแทบจะทุกบริษัท และบางคนก็อาจจะไม่รู้ชัดด้วยซ้ำว่าสายงานนี้มีความสำคัญยังไง? วันๆ นึงพวกเขาต้องทำอะไรกันบ้าง?
เบื้องต้นถ้าจะให้เราพูดแบบอธิบายกันง่ายๆ เลยก็คือ พวกเขามีหน้าที่ในการดูแลบริการงานลูกค้าและเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและองค์กร หรือเปรียบเสมือน “กาว” ที่คอยประสานงาน เจรจา ส่งมอบงาน ให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้งานทั้งหมดสำเร็จลุล่วงไปตามเป้าหมายนั่นเองค่ะ
และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพและเข้าใจวิธีการทำงานของ AE กันมากขึ้น วันนี้เราก็จะพามาดูรูปแบบการทำงานของ 3 AE แห่งซันนี่ไซด์อัพกัน!
นุ๊ก – AE น้องใหม่
นุ๊ก - AE น้องใหม่ (2 เดือน+)
ประสบการณ์การทำงาน - คลินิคศัลยกรรม, Freelance (MC/PR)
“การทำงานตอนนี้รู้สึกเป็นเรื่องท้าทายมากเพราะเรายังใหม่ มีต้องคุยกับลูกค้าทั้งลูกค้าที่โทรเข้ามาปรึกษาและลูกค้าที่เราโทรไปจาก Contact ที่เขาเข้ามาติดต่อ บางอย่างเราก็ไม่รู้จะตอบลูกค้าว่าอะไร ส่วนใหญ่จะใช้เป็นการติดต่อทาง Email แล้วค่อยมาปรึกษาคนในทีมเพื่อเสนอ Package และ ทำใบเสนอราคาส่งกลับไปอีกที”
“อุปสรรคตอนนี้ที่หนักสุดก็คือเรื่องภาษาที่เป็น Technical ทำให้เราคุยงานยาก เพราะเราความรู้ในสายนี้ไม่แน่น แต่ถ้าถามว่ายากมั้ย มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะ ข้อมูลต่างๆ ทุกอย่างสามารถเรียนรู้ได้”
“ในตอนแรกก็ยังไม่รู้จักอาชีพ AE เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง คิดว่าต้องจบด้านการตลาด สายโฆษณา หรืออะไรเกี่ยวกับ Digital Marketing มารึป่าว แต่พอมาทำจริงก็คิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ การสื่อสารและการใช้ภาษา อีกอย่างคือเราต้องมี Sense ต้องมีความรู้ ต้องรอบคอบ และเราต้องไม่รู้แค่เรื่องของ AE”
น้ำหวาน – AE สายเป๊ะ
น้ำหวาน - AE สายเป๊ะ (2 ปี+)
ประสบการณ์การทำงาน - บริษัททัวร์, Event Organizer
“เป็นงานที่สนุกมากนะ รู้สึกเจออะไรแต่ละวันไม่ค่อยซ้ำกันดี ได้คุยกับลูกค้า ประสานงานภายในทีม ความ Challenge สุดก็คงอยู่ที่ 3 ส่วน คือ ทีม ลูกค้า แล้วก็ตัวเราเอง เพราะต้องคอยเอาสิ่งที่ทีมพูดกับลูกค้าพูดมากระจายข้อมูลให้ตรงกัน แล้วเราก็ไม่ได้มีหน้าที่แค่รับสารแล้วส่งต่อ แต่เราก็ต้องแสดงความคิดเห็นด้วยถ้ามีอะไรที่ไม่ดี ต้องพยายามทำทุกอย่างให้ออกมากลมที่สุดแล้วก็ต้องไม่ขัดกับใครเลย”
“จริงๆ ่ส่วนตัวนี่เองก็เป็นคน Introvert มาก คนอื่นมอง AE อาจคิดว่าต้องเป็นคนที่คุยเก่งๆ ตอนเข้ามาทำงานใหม่ๆ ก็รู้สึก Awkward กับตัวเองเหมือนกันจะทำได้มั้ย แต่พอมาทำจริงก็รู้สึกว่าทำได้นะและก็ทำได้ดีด้วย เพราะงาน AE มันไม่ได้มีแค่คุยกับลูกค้าอย่างเดียวไง แต่มันมีเรื่องอื่นอีกเยอะ มันไม่จำเป็นต้องพูดเยอะด้วยซ้ำ แค่พูดรู้เรื่อง พูดจาดี สร้างบุคลิกภาพตัวเองให้ดูดี บวกกับ Soft Skill ความประนีประนอมด้วยได้ก็จะดีมาก”
“ถ้าจะให้พูดถึงมุมมองของอาชีพนี้รู้สึกว่าค่อนข้าง Flexible มาก การที่เราได้ทำงานกลางคนอื่นๆ ทำให้เราเข้าใจคนมากๆ แล้วพอเราเข้าใจคน ได้มองเห็นอะไรในหลายๆ ด้าน ก็เหมือนทำให้เราสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ถ้าจะให้เป็น Specialist เลยก็คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ Skill ที่เราได้ ก็ทำให้เราปรับตัวต่อได้ง่าย”
พี่ส้ม – AE รุ่น THE
พี่ส้ม - AE รุ่น THE (9 ปี+)
ประสบการณ์การทำงาน - Graphic + Motion Graphic Designer, ช่างภาพ, Project Manager
“จริงๆ พี่ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบนะ อย่างตัวพี่เองเรียบจบ Multimedia เลยทำให้เรารู้เรื่องการออกแบบสื่อค่อนข้างหลากหลาย บวกกับความชอบที่เราชอบจัดการงานทุกด้านมาตั้งแต่เรียน มีความเป็นเจ้าโปรเจกต์ชอบคุมทีม แล้วพอมาทำงานจริงเลยทำให้รู้ว่าเราต้องคุยเพื่อเอาอะไรมาจากลูกค้าบ้าง เพื่อมาส่งต่อให้กับทีมให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด”
“ในเรื่องการประสานงานกับลูกค้าตัวพี่เองก็ต้องใช้จิตวิทยาในการพูดเยอะมาก เพราะเราต้องสร้างความสัมพันธ์ สร้างความเป็นเพื่อน แล้วก็ต้องคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับเขาได้ แต่ก่อนคือคุยกับแต่ละเจ้าก็คิดเยอะเหมือนกันว่าถ้าพูดไปแล้วจะมีผลกระทบอะไรตามมามั้ย ไม่ว่าจะทางลูกค้าหรือทีม ถ้าลูกค้าพูดมาแบบนี้ แต่เราไม่สามารถให้ได้ เราจะจัดสรร/จัดการหาตรงกลางยังไงให้พอใจได้ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งประเด็นก็คือเราก็ต้องไปศึกษาลูกค้าและองค์กรของลูกค้า เพื่อทำความเข้าและรู้จักภาพรวมของลูกค้าให้ดีพอ เพราะเราเน้นการทำงานเหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดของลูกค้าเป็นหลัก”
“การเป็น AE ไม่จำเป็นต้องเป็นคนสวย แต่ก็ควรดูแลภาพรวมของตัวเองให้ดูดี แต่งตัวถูกกาลเทศะ เพราะถือว่าเป็นการเคารพและให้เกียรติลูกค้า และมีจิตวิทยาในการพูด มีการพูดจาหว่านล้อมที่ดี แล้วก็มีความใจเย็น อันนี้สำคัญเป็นอันดับ 1 เลย เพราะไม่ว่าจะคุยดีแค่ไหนแต่ถ้าหงุดหงิดง่ายมันก็กระทบกันหมด
ถึงน้องๆ รุ่นใหม่ ถึงเราจะไม่มีความรู้ด้าน AE เลยก็ไม่ต้องกลัว ข้อมูลต่างๆ ในแต่ละด้าน เราสามารถศึกษาได้ หรือ ถ้าเป็นเรื่องเฉพาะทาง หรือเหตุการณ์เฉพาะหน้า เราต้องรู้ว่าจะได้ข้อมูลนั้นๆ จากไหน มีไหวพริบจัดการเหตุการณ์ต่างๆ แต่สิ่งสำคัญสำหรับอาชีพนี้คือ เราต้องรู้ตัวเองว่าเราเป็นคนชอบอะไร ชอบการสื่อสาร การประสานงาน การจัดการมั้ย เราสามารถรับมือกับคนหลากหลายรูปแบบได้มั้ย ทุกอย่างรวมกันเพื่อให้การทำงานออกมาเป็นมืออาชีพมากที่สุด”