เคยถามตัวเองมั้ยว่า.. ทำไมลูกค้าต้องเลือกซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์เรา ทั้งๆ ท้องตลาดก็มีสินค้าคล้ายกันเต็มไปหมด? ซึ่งถ้าเราตอบคำถามข้อนี้ได้มันก็ดี แต่!! ถ้าเราตอบไม่ได้นี่สิพังแน่นอน!!
นั่นเพราะชี้ชัดได้เลยว่าเราไม่รู้ว่า “จุดยืนของแบรนด์คืออะไร!?”
แถมยังส่งผลโดยตรงต่ออการวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดและการสื่อสารระหว่างแบรนด์ถึงกลุ่มลูกค้า เผลอๆ อาจทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ไม่ได้อีกด้วย ซ้ำร้าย! ลูกค้าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพยายามจะบอกกับพวกเขาอีกต่างหาก โอ้ยยยย พังๆ ดังนั้นมาลองทำความเข้าใจในเรื่องของ Brand Positioning แบบง่ายๆ กันสักตั้ง เพื่อเอาไปปรับใช้กับแบรนด์กันดีกว่าค่ะ
Brand Positioning คืออะไร?
คือ.. การวางตำแหน่งแบรนด์หรือจุดยืนของแบรนด์ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ข้อเสนอ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อยึดครองตำแหน่งที่ดีและแตกต่างที่สุดในใจของกลุ่มลูกค้าให้ได้นั่นเอง
สามารถสร้าง Brand Positioning ได้จาก 3 ปัจจัยหลักดังนี้
- Marketing Needs : ท้องตลาดต้องการอะไร?
ยิ่งเรารู้จักกลุ่มลูกค้าดีเท่าไหร่ ยิ่งเป็นต่อในเรื่องการทำธุรกิจมากเท่านั้น ซึ่งเราต้องรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร? สนใจอะไร? และมีปัญหาอะไร? และพัฒนาให้ดีกว่าที่มีอยู่หรือเป็นสิ่งใหม่ๆ ไม่เหมือนใครเลยก็ได้
- Competency : แบรนด์สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้จริงมั้ย?
เมื่อรู้ความต้องการของกลุ่มลูกค้าแล้ว ก็อย่าลืมย้อนกลับมามองธุรกิจของเราและหาจุดเชื่อมต่อให้ได้ว่าแบรนด์เราสามารถตอบสนองความต้องการหรือแก้ปัญหาอะไรให้กลุ่มลูกค้าได้บ้าง?
- Passion : มีความโดดเด่นที่ทำให้ต่างจากคู่แข่งยังไง?
จริงๆ แล้วตัวตนของแบรนด์เป็นแบบไหน? เรามีความชื่นชอบอะไร? มีความโดดเด่นหรือความหลงไหลอะไรเป็นพิเศษกว่าคู่แข่งหรือไม่? เพราะนั่นแหละที่จะทำให้ลูกค้ารู้ว่าทำไมพวกเขาต้องเลือกสินค้าและแแบรนด์เรา
แล้ว Brand Positioning มีข้อดีอะไรบ้าง?
นอกจากจะทำให้รู้ว่าแบรนด์ของเราอยู่ตรงไหนของท้องตลาดแล้ว ยังส่งผลต่อการวางกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ ดังต่อไปนี้
– ช่วยสร้างความภักดีให้แบรนด์อยู่ในท้องตลาดได้นานขึ้น
– ช่วยสร้างแรงจูงใจในการสั่งซื้อทั้งในกลุ่มลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิม
– สามารถสร้างความแตกต่างให้เหนือกว่าคู่แข่งทั้งหลาย
– ช่วยให้มีแนวทางที่ชัดเจนและสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าได้โดนใจยิ่งกว่า
สุดท้ายนี้.. อยากให้ทุกๆ คนลองย้อนกลับไปมองจุดยืนของแบรนด์เราดูนะคะว่า “มันตรงกับสิ่งที่ตลาดต้องการจริงมั้ย?” พร้อมกันค้นหาจุดยืนของแบรนด์ตัวเองให้ชัดเจน ให้ตอบโจทย์ทั้งตัวเองและกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แบรนด์ปังปุริเย่กว่าเดิมนะคะ
และถ้าคุณต้องการที่จะพัฒนาแบรนด์แต่ไม่ค่อยมีเวลาลงมือทำเอง Sunnysideup Studio มีบริการ Social Media Page ที่พร้อมดูแลสื่อโซเชียลของคุณอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้สินค้าและแบรนด์ของคุณสื่อสารได้ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุด อ่านรายละเอียดได้ที่ https://sunnysideupstudio.net/th/social-media-page