Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?

เมื่อพูดถึงการออกแบบสินค้า เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือฟอนต์ที่สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้าและแบรนด์ได้เป็นอย่างดี การใช้ฟอนต์ที่เข้ากับสินค้า จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้าให้เด่นชัดขึ้น ในขณะเดียวกัน การใช้ฟอนต์ที่ไม่ตรงกับลักษณะของสินค้าก็อาจสร้างความสับสนให้ลูกค้าได้

ฟอนต์ที่เป็นที่นิยมมี 3 ประเภทหลักๆ แต่ละประเภทมีดีไซน์ต่างกัน และการนำไปใช้งานก็ต้องดูความเหมาะสมกับสินค้าแต่ละชนิด มาดูกันดีกว่าว่า “สินค้าของเราเหมาะกับฟอนต์ประเภทไหน?”

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
ฟอนต์ประเภทมีเชิง (Serif Font)

ฟอนต์รูปแบบดั้งเดิมที่มีขีดเล็กๆ อยู่ที่ปลายตัวอักษร ช่วยให้อ่านง่ายสบายตา ฟอนต์ประเภทนี้มีที่มาจากตัวอักษรโรมันโบราณ ให้ความรู้สึกหรูหราคลาสสิก

  • เหมาะกับแบรนด์สินค้าเก่าแก่ มีประวัติมาอย่างยาวนาน หรือการออกแบบที่ต้องการความคลาสสิก ดูดีมีระดับ เป็นทางการ เป็นต้น
  • Serif Font เหมาะกับข้อความในส่วนของเนื้อหาบทความ เนื่องจากอ่านง่ายกว่าฟอนต์ประเภท Sans Serif
  • ฟอนต์ Serif ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Times New Roman, Courier New และ Angsana New เป็นต้น

*note : Serif อ่านว่า “เซริฟ”

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
ฟอนต์ประเภทไม่มีเชิง (Sans Serif Font)

ฟอนต์ประเภทไม่มีเชิงที่ปลายตัวอักษร เป็นฟอนต์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้ความรู้สึกทันสมัย ปัจจุบัน Sans Serif จึงได้รับความนิยมมากกว่า Serif

  • เหมาะกับการออกแบบที่ต้องการความเรียบง่าย สะอาดตา หรือใช้กับสินค้าที่มีความทันสมัย เช่น สินค้าเทคโนโลยี เป็นต้น
  • ฟอนต์ Sans Serif ที่เป็นที่นิยม เช่น Helvetica, Tahoma และ Arial เป็นต้น

*note : Sans Serif อ่านว่า “แซนส์เซริฟ”

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
ฟอนต์ตัวเขียน (Script Font)

ฟอนต์ที่ดูเหมือนลายมือ ดูมีชีวิตชีวาและไม่เป็นทางการ เหมาะกับการใช้ในข้อความสั้นๆ เช่น การตกแต่ง พาดหัว หรือใช้ในโลโก้ เพื่อสร้างความรู้สึกสนุกสนาน หรือสบายๆ เป็นกันเอง ไม่เหมาะนำมาใช้ในเนื้อความขนาดยาวเพราะจะทำให้ดูลายตา

  • นิยมใช้กับแบรนด์สินค้าสำหรับเด็ก สินค้าเพื่อสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เป็นต้น
  • ฟอนต์ Script ที่พบได้บ่อย เช่น French Script MT, Brush Script Mt และ Lucinda Handwritting เป็นต้น

*note : Script อ่านว่า “สคริปต์”

 

การใช้ฟอนต์ในแบรนด์ระดับโลก
ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
Ferrari

แบรนด์รถยนต์หรูผู้นำตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ มีอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี โลโก้ของเฟอร์รารี่จึงใช้ฟอนต์ Serif ที่ดูหรูหรา เป็นทางการ สะท้อนความเก่าแก่ และประวัติที่มีมาอย่างยาวนาน

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
Google

เสริชเอนจินที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดทั่วโลก โลโก้ของ Google ใช้ฟอนต์ Sans Serif และใช้สีสันสดใส เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์นำสมัย เป็นประตูสู่แหล่งข้อมูลใหม่ๆ กระตุ้นจินตนาการและเชื่อมโยงความรู้จากทั่วโลก

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
Walt Disney

ใช้ฟอนต์ลายมือแบบ Hand Writting ที่ดูไม่เป็นทางการ สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ พร้อมสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในครอบครัว

ฟอนต์สุดฮิต 3 สไตล์ เลือกฟอนต์อย่างไรให้เข้ากับแบรนด์?
Yves Saint Laurent

แบรนด์แฟชั่นเก่าแก่จากประเทศฝรั่งเศส ใช้ฟอนต์ที่มีการออกแบบผสมผสานระหว่าง Serif และ Sans Serif เพื่อให้ดูเก่าแก่คงความคลาสสิก ในขณะเดียวกันก็นำสมัยเข้ากับภาพลักษณ์ผู้นำอุตสาหกรรมแฟชั่น นอกจากนี้ยังมักใช้สีเมทัลลิคในส่วนชื่อแบรนด์เพื่อเน้นความหรูหราอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการเลือกใช้ฟอนต์นั้นมีผลไม่น้อยเลยทีเดียว กับการสะท้อนภาพลักษณ์และกำหนดจุดยืนของแบรนด์ในตลาด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องของสี Mood & Tone และการออกแบบด้านอื่นๆ ที่ต้องสอดคล้องกัน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ควรใส่ใจเพื่อให้โลโก้ ฟอนต์ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับแบรนด์ สอดคล้องกันอย่างลงตัวและเป็นที่จดจำของผู้บริโภค

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :

  • www.canva.com, Build your brand: How to choose the right fonts
  • www.ebaqdesign.com, Best Fonts For Logos: Serif, Sans & Script
  • https://shin-ji.medium.com, ความลงตัวของ Font บนเว็บไซต์

 

Leave a comment