คือฟีเจอร์หนึ่งของ Google ที่จะปรากฏขึ้นในรูปแบบของ Story คล้ายกับที่เราเคยเห็นใน Instagram และ Facebook แตกต่างกันตรงที่เราสามารถเห็นได้ในหลายช่องทางของ Google ดังต่อไปนี้
ที่มาข้อมูลจาก : Google Search Central
Google Search : ช่องทางการค้นหาของกูเกิ้ลที่เรามักจะเข้าไปเสิร์ชหาข้อมูลกัน
Google Discover : Story จะปรากฏทั้งในระบบ IOS และ Android เป็นภาพสไลด์ด้านบน (แสดงผลในประเทศสหรัฐอเมริกา, อินเดีย และบราซิลเท่านั้น)
Google Images : ปรากฏในหน้าค้นหารูปภาพ โดยมีไอค่อน Web Stories ด้านหน้า
ปรากฏในเว็บไซต์ของเรา : เมื่อติดตั้ง Plugin ลงไปในเว็บ
อย่างไรก็ตาม Story ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเว็บไซต์ของเราจะแสดงให้เห็นภาพและคลิปอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่รูปวงกลมที่เราต้องกดเข้าไปดูด้วยตัวเอง ทั้งยังใส่ได้หลาย Story…
ทำไมใครๆ ก็อยากทำให้ Website ติดหน้าแรก? เพราะยิ่งเว็บติดอันดับบนๆ เท่าไหร่ ก็ยิ่งน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสการคลิกเข้าชมมากเท่านั้น
วิธีทำให้เว็บติดหน้าแรก เรียกง่ายๆ ว่า “การทำ SEO” ซึ่งประกอบด้วยหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น ปริมาณคนเข้าเว็บ, ประสบการณ์ที่ดีของผู้เข้าชม และความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และองค์ประกบอื่นๆ เช่น
การทำให้เว็บอื่นลิงก์มายังเว็บของเรา อย่างการทำ Link Building หรือ Backlinks
การเลือกคีย์เวิร์ด (Keywords) ที่เหมาะสม ซึ่งคำที่ถูกค้นหาเยอะก็ยิ่งทำเงินได้ ส่งผลให้มีคนมากมาย “ต้องการทำอันดับ” และเกิดการแข่งขันที่สูงตามไปด้วย
เทคนิคการแย่งชิงอันดับดีๆ จากคีย์เวิร์ดยอดฮิต
1. เลือกคีย์เวิร์ดที่ “เกี่ยวข้อง” แทนที่จะเป็น “คำหลัก”
เว็บไซต์ใหญ่ๆ อย่าง Marketplace เช่น Shopee และ Lazada มักจะมุ่งทำอันดับที่คำหลักมากกว่าคำประเภทอื่นๆ ฉะนั้น คีย์เวิร์ดที่คู่แข่งไม่เยอะเท่าคำเหล่านั้น คือคีย์เวิร์ดประเภท…
SEO คืออะไร?
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้บรรดา Search Engine หาเว็บของเราเจอได้ง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้นตามไปด้วย
ให้ลองคิดว่าการทำ SEO คือการที่เราพยายามจีบ Search Engine ให้ติด ด้วยวิธีพัฒนาตัวเองให้ดีมากพอจะเข้าไปอยู่ในสายตาของเขา ไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Search Engine อีกมากมายหลายเจ้า
ฉะนั้น การพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีจึงประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ไม่สามารถทำ SEO ให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว
เวลาที่เราค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ต่างๆ อย่างเช่น Google แน่นอนว่ามีเว็บไซต์ให้เราเลือกคลิกอ่านมากมาย
แต่เรากดลิงก์ไหนก่อนล่ะ?
ลิงก์ที่อยู่ด้านบนสุดมักจะดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าใช่มั้ยคะ และพฤติกรรมของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ชอบกดลิงก์แรกๆ นั้นทำให้อัลกอริทึม (Algorithm) รับรู้ว่า “นั่นคือเว็บไซต์ยอดนิยม” และจะช่วยดันให้คนเห็นมากยิ่งขึ้นไปอีก…
แม้ว่าโซเชียลมีเดียอาจเป็นช่องทางแรกในการเข้าถึงลูกค้า และเป็นช่องทางหลักที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกค้ายังคงต้องการความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ โดยเฉพาะเมื่อมีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ในโลกดิจิทัล ลูกค้าจึงมีตัวเลือกมากขึ้น และลูกค้าจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะค้นหาเว็บไซต์ของแบรนด์ เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
เว็บไซต์จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการตลาดดิจิทัล ที่ธุรกิจสามารถยึดเป็นหลักได้ไม่ว่ากระแสจะเปลี่ยนไปอย่างไร หากธุรกิจของคุณยังไม่มีเว็บไซต์ ซันนี่ขอเสนอ “10 เหตุผล ที่เว็บไซต์จำเป็นต่อธุรกิจบนโลกดิจิทัลของคุณ”
1. สร้างความน่าเชื่อถือ
มีการหลอกลวงบนโลกดิจิทัลเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเกิดความกังวลใจในการสั่งซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์ และมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าจากร้านหรือแบรนด์ที่พิสูจน์ได้ว่ามีตัวตนจริงมากกว่า 84% ของลูกค้าให้ความเห็นว่า ธุรกิจที่มีเว็บไซต์น่าเชื่อถือมากกว่าธุรกิจที่มีเพียงแอคเคาท์โซเชียลมีเดียเท่านั้น ซึ่งทำให้เว็บไซต์ กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยยืนยันตัวตนของธุรกิจได้
นอกจากนี้ เรายังสามารถใส่ข้อมูลที่ช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เช่น ผลการรับรอง รางวัลที่ได้รับ รีวิวจากลูกค้า บนเว็บไซต์ได้อีกด้วย
2. มีผลต่อการสร้างแบรนด์
บนเพจโซเชียลมีเดีย เราไม่สามารถออกแบบ UX, UI หรือแม้แต่ประสบการณ์เฉพาะตัวที่ลูกค้าจะได้รับจากแบรนด์ แต่บนเว็บไซต์ของธุรกิจ เราสามารถออกแบบประสบการณ์ของลูกค้าให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้โดยละเอียด เว็บไซต์จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่แสดงข้อมูลสินค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจ และสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนมาซื้อสินค้าที่ร้านด้วยตนเองได้อีกด้วย
3. ทำการตลาดผ่าน SEO
การสร้างคอนเทนต์ในเว็บไซต์ ช่วยให้เราสามารถทำการตลาดผ่าน SEO ได้ ซึ่งนำไปสู่ยอดการเข้าชมแบบออร์แกนิกผ่านคีย์เวิร์ดการค้นหาบน Google และเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าจริงๆ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเหมือนในโซเชียลมีเดีย…
อยากมีเว็บไซต์สวยๆ เป็นของตัวเอง แต่ยังไม่อยากจ้างโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ด?
สมัยนี้การสร้างเว็บไซต์เองเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว หากคุณไม่ได้ต้องการเว็บไซต์ที่มีลูกเล่นแพรวพราว หรือมีการออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ แล้วละก็ ซันนี่ขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือดีๆ อย่าง “WordPress”
WordPress คืออะไร?
WordPress คือ Content Management System (CMS) หรือโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในการสร้างและจัดการเว็บไซต์ WordPress นับเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด โดยเว็บไซต์มากกว่าร้อยละ 40 ของทั่วโลกล้วนสร้างขึ้นด้วยระบบของ WordPress
ความแตกต่างระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org
WordPress.com
ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป มีธีมและปลั๊กอินให้เลือก แต่ปรับแต่งมากไม่ได้และปลั๊กอินที่ให้บริการมีจำกัด มีระบบการทำงานไม่ซับซ้อน เพียงแค่เช่า Domain Name เป็นรายเดือนหรือรายปีก็สามารถใช้งานได้แล้ว
WordPress.com มีข้อเสียคือค่าบริการค่อนข้างสูง และมีพื้นที่การใช้งานจำกัด
เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์ด้วยตนเอง เพราะเว็บไซต์อยู่ใบนระบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
WordPress.org
เป็นซอฟต์แวร์จัดการเว็บไซต์แบบ Open-Source ทุกคนสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี 100% แต่ต้องไปเช่า…
หลังจากออกแบบผลิตภัณฑ์ สปอตโฆษณา หรือ Landing Page ขึ้นมาแล้ว นักการตลาดก็จะนำผลงานเหล่านั้นมาทำ A/B Testing เพื่อค้นหารูปแบบที่จะได้รับความนิยมที่สุด หลังจากได้ผลลัพธ์ว่ารูปแบบใดรูปแบบหนึ่งได้รับความนิยมกว่ารูปแบบอื่นๆ เราจึง จะนำมาใช้จริง ด้วยความสบายใจว่าต้องได้ผลตอบรับที่ดีแน่ๆ
แต่นักการตลาดหลายๆ คนอาจเคยประสบปัญหา รูปแบบที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดจาก A/B Testing กลับไม่ประสบผลสำเร็จเมื่อนำมาใช้งานจริง นั่นเป็นเพราะอะไรกันนะ?
รู้หรือไม่ว่า? ผลลัพธ์ 80% ของ A/B Testing ที่เราทำนั้น อาจเป็นภาพลวงตา
ซันนี่มาไขข้อข้องใจว่าปัญหานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมถึงจะมาแนะนำวิธีการแก้ปัญหาด้วย “ A/A Testing”
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจวิธีการทำ A/B Testing
A/B Testing คือวิธีการทดสอบโดยนำตัวอย่างทดลอง 2 แบบ (หรืออาจมากกว่า 2 แบบ ถ้ามี 3-4 แบบ อาจแบ่งเป็น…
“อยากติดหน้าแรกบน Google ต้องทำ SEO เอ๊ะ! หรือ SEM กันแน่นะ?” วันนี้ซันนี่จะมาไขความแตกต่างระหว่าง SEO และ SEM และไขข้อข้องใจ ว่าทำไม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด? จึงควรต้องใช้ทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป