Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

รูปแบบ Content Marketing ที่น่าสนใจ คอนเทนต์แบบไหนเหมาะกับแพลตฟอร์มที่เราใช้อยู่!

รูปแบบ Content Marketing น่าสนใจ

“คอนเทนต์” แต่ละประเภทย่อมเหมาะกับแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ทั้งยังเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างเพจเพื่อทำธุรกิจออนไลน์ มาดูไอเดียกันดีกว่า ว่าเราจะสร้างคอนเทนต์รูปแบบไหน ในแพลตฟอร์มใด ให้โดนใจผู้อ่านได้บ้าง!

1. Case Study 

การเล่ากรณีศึกษา (Case Study) คือการเล่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทำให้คนรับรู้ได้ว่าหากทำสิ่งนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยไม่จำเป็นต้องแสดงแค่ผลลัพธ์ในด้านดีเท่านั้น ในทางการตลาดเราอาจทำคอนเทนต์ในรูปแบบนี้ได้หลายประเด็น เช่น

  • การเปรียบเทียบสินค้าทั้ง 2 ประเภทจากการขายในช่วงเทศกาล ว่าสินค้าชนิดใดได้รับความนิยมมากกว่ากัน
  • เล่าถึงเทคนิคทางการตลาดที่มีการนำไปใช้จริงและเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน

อะไรจะทำให้คน “เห็นภาพ” ไปได้ดีกว่า “ผลลัพธ์” ที่ชัดเจน และนี่คือจุดเด่นของคอนเทนต์ประเภทนี้ โดยเราสามารถแยกย่อยการเล่ากรณีศึกษาได้หลายรูปแบบ และสามารถปรับให้เข้ากับแต่ละแพลตฟอร์มได้ เช่น 

  • เล่าเป็นบทความ เพื่อลงเป็น Blog ในเว็บไซต์
  • ทำเป็น Facebook Album 
  • คลิปวิดีโอสั้น เพื่อลงในแพลตฟอร์ม เช่น TikTok และ Reels

ตัวอย่าง Case Study : การตลาดในวันวาเลนไทน์ คลิก


2. Infographics

อินโฟกราฟิก คือ การนำข้อมูลมานำเสนอเป็นรูปภาพ เป็นคอนเทนต์ประเภทที่อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย เพราะถูกย่อยมาให้แล้ว และมักจะมีการจัดวางที่น่าสนใจ ทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเวลาได้รับข้อมูลที่มีตัวหนังสือเยอะๆ

คอนเทนต์ประเภทอินโฟกราฟิกเหมาะสำหรับการลงในแพลตฟอร์มที่แสดงรูปภาพได้ชัดเจน เช่น 

  • โพสต์เป็น Single ใน Facebook
  • Instagram
  • ใช้เป็นภาพประกอบใน Blog
Infographic อินโฟกราฟิก TikTok Reels

3. Short Video

คือ คอนเทนต์ที่มักจะสอดแทรกไปด้วยความบันเทิงมากกว่าเนื้อหาหนักๆ เพราะมาในรูปแบบวิดีโอที่สั้นและมักจะไม่เกิน 1 นาที ทำให้ผู้ชมได้ความเพลิดเพลินในระหว่างที่แบรนด์พยายามจะ “สื่อสาร” อะไรบางอย่าง

เรียกว่า TikTok มาเขย่าวงการคอนเทนต์จนสะเทือนไปแทบทุกแพลตฟอร์ม เพราะในปัจจุบันนี้  “คลิปวิดีโอสั้น” แทบจะเป็นคอนเทนต์ที่ฮอตฮิตสุดๆ แม้แต่ทางเมต้าเองก็ยังทุ่มทุนไปกับการงัด Reels ขึ้นมาแข่ง ไหนจะ Shorts จากทาง Youtube และ Line Voom อีก!

คอนเทนต์ประเภทคลิปวิดีโอสั้นจึงเป็นประเภทที่อยู่ในกระแสสุดๆ เพราะยังมาแรงไม่หยุด  ทั้งยังเหมาะที่จะนำเสนอคอนเทนต์ได้หลายประเภท เช่น ขาย, ให้ความรู้ หรือสร้าง Awareness โดยสามารถโพสต์ลงได้ในแพลตฟอร์ม เช่น TikTok, Reels, Shorts เป็นต้น


4. Podcast

คือคอนเทนต์ที่สามารถรับสารได้ด้วย “การฟัง” เพิ่งเป็นที่นิยมในช่วงเวลาราวๆ สิบปีให้หลังมานี้ เหตุจากความนิยมของอุปกรณ์ฟังเพลงเช่น Ipod และโทรศัพท์มือถือที่ทำให้เราสามารถฟังอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น 

พอดแคสต์เหมาะสำหรับคอนเทนต์ประเภทที่ต้องเล่าเรื่อง อาจมีความยาวในหลักไม่กี่นาที ไปจนถึงชั่วโมง และเหมาะที่จะลงในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Spotify, Youtube เป็นต้น

 


5. Blog

“บล็อก” หรือคอนเทนต์ที่ท่านกำลังอ่านอยู่ตอนนี้ คือรูปแบบที่เหมาะสมต่อการทำ SEO มากที่สุด เพื่อให้บรรดา Search Engine หา Keyword เจอจนค้นพบเว็บไซต์ของเรา

ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่อง SEO แล้ว ยังสามารถนำเสนอข้อมูลยาวๆ ได้ดีกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่น เหมาะสำหรับการโพสต์ลงเว็บไซต์ แต่ถึงแม้จะใส่เนื้อหายาวๆ ได้ ก็ไม่ควรยาวเกินไป ทั้งยังต้องคำนึงถึงความง่ายและสบายตาในการอ่าน เพื่อให้ผู้อ่านไม่กระอักไปกับตัวหนังสือจำนวนมหาศาล แล้วชิ่งกดออกจากเว็บของเราไปเสียก่อนนั่นเองค่ะ

 


คอนเทนต์ทุกรูปแบบมีประโยชน์แตกต่างกัน บางคอนเทนต์อาจให้เอนเกจดีในแพลตฟอร์มหนึ่ง แต่อาจไม่ได้เอนเกจที่ดีเท่า หากนำไปลงในอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง เราจึงต้องพิจารณาให้ดีว่าคอนเทนต์แบบไหน เหมาะสมจะทำในรูปแบบใด ลงในแพลตฟอร์มอะไร เพื่อจะได้สร้างประโยชน์ให้สูงที่สุดนั่นเองค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

ndash : http://bit.ly/409ylz7