ทำไมคนนี้.. ทำอะไรก็ปัง?
ทำไมร้านนั้น.. ขายอะไรก็เฮง?
ทำไมธุรกิจโน้น.. ประสบความสำเร็จตลอด?

ทำไม ทำไม ทำไม ??

คำว่า #ทำไม มันวนเวียนอยู่ในหัวของเราอยู่ตลอดเวลา จนอดสงสัยไม่ได้ว่า “ทำไมคนๆ นั้นถึงได้ดิบได้ดีขนาดนี้ ทั้งๆ ที่มีปัจจัยแวดล้อมไม่ได้ต่างจากเรามากนัก?” มาค่ะ วันนี้ซันนี่จะพาทุกๆ ท่านมารู้จักกับวิธีการคิดแบบ “Start with WHY?” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ ความสำเร็จของบริษัทชั้นนำของโลกกันค่ะ

Start with Why คืออะไร?

“Start with Why” เป็นหนังสือยอดฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลกของ “Simon Sinek” โดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ หรือคำถามง่ายๆ ว่า #ทำไม เขาเลยพยายามหาคำตอบจากกรณีศึกษาต่างๆ จนได้ค้นพบ “ศูนย์ร่วมของความสำเร็จ” นั่นก็คือ.. การเริ่มต้นธุรกิจหรือการทำสิ่งใดก็ตามมักมาจากคำถามว่า “ทำไม?” นั่นเอง

ทำให้ Simon Sinek ได้คิดค้น #วงกลมทองคำ (The Golden Circle) ขึ้นมา เพื่อเป็นกระบวนการที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด

The Golden Circle ประกอบไปด้วย 3 ส่วนดังนี้

1. What? เป็นคำถามในวงกลมชั้นนอกสุด
   แน่นอนว่าทุกๆ ธุรกิจย่อมรู้ดีว่าตัวเองทำอะไร ขายอะไร สินค้าและบริการของตัวเองคืออะไร
2. How? เป็นคำถามในวงกลมชั้นกลาง
   บางธุรกิจอาจจะพอรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำคืออะไร เขาก็จะรู้วิธีที่จะทำให้แตกต่างจากคู่แข่งได้ดี เช่น การหาสิ่งที่พิเศษกว่าคู่แข่ง เพื่อให้สินค้าและบริการของตัวเองมีจุดเด่นกว่า เป็นต้น
3. Why? เป็นคำถามในวงกลมชั้นในสุด
   สำหรับข้อนี้ค่อนข้างสำคัญที่สุด แต่กลับมีจำนวนธุรกิจที่รู้ข้อนี้น้อยมากๆ ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าตัวเองไปทำไม หรือเขาทำธุรกิจนี้ไปทำไม?

ใช่ค่ะ.. คำว่า “ทำไม” ในข้อนี้หมายถึง “จุดมุ่งหมาย” หรือความเชื่อ ว่าก่อตั้งบริษัทนี้มาทำไมกันแน่?

Apple บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เริ่มต้นจากคำว่า Why?

ส่วนใหญ่แล้วหลายๆ ธุรกิจจะสื่อสารจากภายนอกสู่ภายในคือ What > How > Why
แต่กรณีของ “Apple” พวกเขาได้สร้างความแตกต่างจากการสื่อสารจากภายในสู่ภายนอก
นั่นก็คือ Why > How > What

ยกตัวอย่างเช่น
“ทุกอย่างที่เราทำ เราทำเพราะเราเชื่อในการท้าท้ายสิ่งเก่าๆ เราเชื่อในการคิดต่าง (Why) และเพื่อท้าทายระบบเก่าๆ เราจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์สวยงาม ใช้งานง่าย และเป็นมิตรกับผู้ใช้ (How) เราก็เลยสร้างคอมพิวเตอร์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมา (What) อยากซื้อสักเครื่องมั้ยคะ”

เพียงแค่สื่อสารอย่างแตกต่างตามโครงสร้าง “The Golden Circle” และบอกถึงจุดมุ่งหมายและความเชื่อมั่นของตัวเองออกมา ซึ่งการสื่อสารแบบนี้จะช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เผลอๆ อาจกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นและเกิดความจงรักภักดีต่อธุรกิจด้วยนะคะ

เพียงตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ทำไม”
ก็สามารถปูทางไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่าคู่แข่งแล้วใช่มั้ยละคะ รู้อย่างนี้แล้ว.. คุณจะเริ่มตั้งคำถามกับธุรกิจของตัวเองได้รึยังว่า.. ทำไม?