ปัจจุบัน ช่องทาง Line OA หรือ Line Official Account ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีที่สุด
เพราะไม่ถูกปิดการมองเห็น สามารถส่งโปรโมชั่นถึงลูกค้าได้โดยตรง ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา และยังได้สื่อสารกับลูกค้าตัวจริงที่ยอมแอดไลน์ของแบรนด์อีกด้วย

แต่แค่มีบัญชี Line OA อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีเทคนิคปิดการขายและรู้จักลูกเล่นหลังบ้านของไลน์ด้วย ซันนี่รวม 5 เทคนิคปิดการขายใน Line OA มาไว้ให้แล้ว ไปอ่านกันเลย!

1. เพิ่มเพื่อน (Add Friend)

อันดับแรกของการทำการตลาดผ่าน Line OA ต้องเพิ่มเพื่อนให้แบรนด์ของเราสามารถเข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก เพราะยิ่งมีเพื่อนมาก ก็ยิ่งมีคนเห็นบรอดแคสต์หรือโพสต์ของเรามากขึ้นไปด้วย วิธีการเชิญชวนให้ลูกค้าเพิ่มเพื่อนในไลน์ เช่น

• สร้าง QR Code ให้ลูกค้าเพิ่มเพื่อนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
• แชร์ลิ้งค์หน้าเพิ่มเพื่อน หรือแชร์ QR Code ตามช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ
• เสนอส่วนลด แลกกับการเพิ่มเพื่อนในไลน์
• สำหรับแบรนด์ที่มีงบประมาณ อาจทำสติ๊กเกอร์แจก แลกกับการเพิ่มเพื่อนในไลน์
• หรือจะใช้วิธีซื้อโฆษณาเพิ่มเพื่อนใน Line Ads Platform (LAP) เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง

2. บรอดแคสต์ (Broadcast)

การบรอดแคสต์มีลูกเล่นมากมาย จะเสนอโปรโมชั่น แนบลิ้งค์ไปยังร้านค้า ส่งคูปอง หรือส่งแบบสอบถามให้ลูกค้าก็ได้ และสามารถแยกลูกค้าเป็นกลุ่มย่อย ด้วย “แท็ก” เพื่อจำกัดข้อความบรอดแคสต์ของเราให้เห็นเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่น่าจะสนใจสินค้าชิ้นนั้น ไม่สร้างความรำคาญให้ลูกค้าที่อาจไม่มีความสนใจ และประหยัดงบประมาณกาารบรอดแคสต์ได้อีกด้วย

ตัวอย่างลูกเล่นที่สามารถส่งทางบรอดแคสต์ได้

• ริชเมสเสจ (Rich Message) > ภาพขนาดเต็มจอ
• ริชวิดีโอเมสเสจ (Rich Video Message) > วิดีโอขนาดเต็มจอ
• การ์ดเมสเสจ (Card Message) > ภาพสินค้าเลื่อนดูได้ แบบ Carousal
• คูปอง (Coupon) > เสนอโปรโมชั่น ชักชวนให้ลูกค้าใช้ส่วนลด
• แบบสอบถาม (Survey) > สำหรับการเก็บข้อมูล หรือทดสอบความพอใจของลูกค้า เป็นต้น

3. แจกคูปอง

ฟีเจอร์ E-Coupon ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก ใช้เสนอส่วนลดเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ หรือชักชวนให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ โดยเราสามารถกำหนดวิธีการส่งคูปองได้ เช่น

• ส่งทางแชท ให้ลูกค้าเป็นรายบุคคล
• แจกคูปองอัตโนมัติเมื่อเพิ่มเพื่อน
• บรอดแคสต์แจกคูปองส่วนลด ตามเทศกาลและโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ 

4. โพสต์วิดีโอใน Line Voom

ฟีเจอร์ที่เข้ามาแทนที่ Timeline ในอดีต จุดประสงค์ของ Voom นั้นเปิดตัวมาสำหรับการโพสต์คลิปวิดีโอขนาดสั้นที่กำลังเป็นกระแส แต่ก็สามารถโพสต์คอนเทนต์ได้หลากหลายประเภทเหมือนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่น เป็นช่องทางการอัพเดตข่าวสารผ่านโพสต์ต่างๆ ของแบรนด์ สามารถโพสต์คอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับข้อความที่บรอดแคสต์ในห้องแชท เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย

ที่สำคัญ Voom ยังสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานที่ยังไม่ได้เพิ่มเพื่อน หากคลิปวิดีโอหรือคอนเทนต์ที่โพสต์ถูกใจผู้ชม ก็จะสามารถเพิ่มผู้ติดตามและเพิ่มเพื่อนขึ้นมาได้แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณาเลยทีเดียว

5. วางสินค้าใน Line My Shop

My Shop ส่วนขยายของ Line OA เป็นช่องทางการเปิดหน้าร้านที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เชื่อมต่อกับไลน์อย่างลงตัว ที่สำคัญ ร้านใน Line My Shop ยังมีไม่มาก ทำให้การแข่งขันต่ำกว่าการเปิดร้านใน Shopee หรือ Lazada

ข้อดีของ Line My Shop

• เพิ่มสินค้าได้สูงสุดถึง 5,000 รายการ
• รับชำระเงินได้หลายช่องทาง รวมถึง Rabbit Line Pay ที่มีโปรโมชั่นและ coin cash back แจกให้ลูกค้าอยู่เรื่อยๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า
• สามารถส่งลิ้งค์สินค้าใน My Shop ให้ลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อได้ โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม

และนี่ก็เป็น 5 เทคนิคพื้นฐานที่ทุกธุรกิจสามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องซื้อโฆษณา แต่ถ้าแบรนด์ไหนต้องการซื้อโฆษณาในไลน์ ก็สามารถใช้งาน Line Ads Platform ที่สร้างมาเพื่อการโฆษณาในไลน์โดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและการเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :

• https://zortout.com, LINE My Shop คืออะไร? รู้จักกับช่องทางการขายทำเงินแห่งใหม่