Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

ขายของออนไลน์ บอกรายละเอียดไม่ครบ มีความผิดหรือไม่ ?

ปัจจุบันคนนิยมซื้อขายของออนไลน์เป็นจำนวนมากและได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จากการเป็นลูกค้ากลายมาเป็นเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ  เช่น Facebook, TikTok, Instagram, Line และช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย 

แต่ก็ยังมีผู้ขายจำนวนหนึ่งที่ขายสินค้าของตนโดยไม่แจ้งข้อมูลแท้จริงของสินค้าหรืบอกข้อมูลสินค้าไม่ชัดเจนให้แก่ลูกค้าทราบ ทำแบบนี้ถือว่ามีความผิดหรือไม่ ?

วันนี้ซันนี่ขอพามาดูกรณีตัวอย่าง เกี่ยวกับประเด็นที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ค่ะ

กรณีไลฟ์สดขายทอง บอกรายละเอียดไม่ชัดเจน

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 กรณี ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งโพสต์คลิป นำทองคำที่ซื้อจากไลฟ์สดของช่อง TikTok ของแม่ค้าขายทองออนไลน์ชื่อดัง นำไปขายที่ร้านทอง แต่ปรากฏว่า ร้านทองไม่รับซื้อ เพราะไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง และไม่มีตราประทับ

หลังจากเกิดกระแสข่าว แม่ค้าชื่อดัง ก็ได้ยอมรับซื้อทองคำทั้งหมดคืน และยอมรับว่า ในไลฟ์ขายทองอาจให้รายละเอียดไม่หมด โดยมีลูกค้านำทองคำมาขายคืนที่ร้านทองจำนวนมาก

จากนั้น ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) พร้อมกำลังเข้าตรวสอบที่ร้านทอง โดยนำทองคำบางส่วนไปตรวจสอบ ที่อ้างว่าเป็นทอง 99.99% ที่ระบุเอาไว้ในไลฟ์ ไปตรวจสอบ

ล่าสุด อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) ได้ให้ความเห็นในฐานะอัยการคุ้มครองผู้บริโภค ในประเด็นข้อ ว่าเรื่องนี้ต้องดูกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค

  • พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค มาตรา 47 บัญญัติไว้อย่างน่าสนใจว่า ผู้ใดเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่า  จะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งกระทำผิดซ้ำอีก ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี   หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • มาตรา 52 บัญญัติไว้อีกว่า ผู้ใดขายสินค้าที่ควบคุมฉลากตามมาตรา 30 โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก   แต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง หรือขายสินค้าที่มีฉลากที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากสั่งเลิกใช้ตามมาตรา 33 ทั้งนี้ โดยรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าการไม่มีฉลากหรือการแสดงฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตามกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าการโฆษณาขายสินค้า อย่างประเด็นที่เป็นข่าวคือทองคำ การสื่อสารต้องชัดเจนว่าทองคำผสมอะไร น้ำหนักเท่าไหร่ ซื้อไปเเล้วสามารถนำไปขายได้ในร้านทองทั่วไปหรือไม่ เรื่องนี้ถ้าสื่อสารชัดเจน ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น

ส่วนในเรื่องคดีความ การไลฟ์สดขายทองที่เป็นข่าวถ้าผู้ขายไม่บอกราคาให้ชัดเจน เเล้วคลิปไลฟ์สดถูกเซฟเอาไว้ อันนี้ก็เป็นพยานหลักฐานที่จะดำเนินคดีได้ ในส่วนที่ผู้ขายมีการประกาศว่าผู้ที่ซื้อไปสามารถนำมาขายคืนได้ในราคาที่ซื้อไป ก็อาจจะถือได้ว่าเป็นการบรรเทาผลร้ายโดยการรับซื้อคืน เเต่กระบวนมันก็ดำเนินการไปเเล้ว

ในส่วนความผิด ถ้าไม่มีผู้เสียหายไปเเจ้งความก็อาจจะไม่เป็นไร เพราะมีการรับซื้อคืน ไม่มีผู้เสียหายเเล้ว เเต่ถ้าเกิดมีคนไปเเจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ต้อง ทำการสอบสวน ดูว่าในการไลฟ์สดขายมีการปกปิดข้อเท็จจริงหรือไม่ ถ้าสอบสวนพบว่ามี ก็อาจจะเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกง หรืออาจจะถึงขั้นข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพราะมีการไลฟ์สดไปสู่ประชาชน ตรงนี้ก็อาจจะขึ้นกับจำนวนผู้เสียหาย

สุดท้ายอยากฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ควรแสดงราคา ค่าบริการ รายละเอียดของสินค้าให้ชัดเจน ครบถ้วน และอ่านเข้าใจง่าย ถ้าหากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกนอกจากราคาสินค้าและบริการ ผู้ขายจะต้องแจ้งกับผู้บริโภคและแสดงค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้ชัดเจนครบถ้วนด้วย

ถ้าไม่เข้าใจเรื่องไลฟ์สดขายสินค้าอย่างไรให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย สามารถโทรปรึกษาสายด่วนอัยการ สคช. โทร 1157 ได้ตลอด