ทำไมธุรกิจออนไลน์ต้องสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง ?
เว็บไซต์ (Website) เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้หลาย ๆ แบรนด์เริ่มสนใจการสร้างเว็บไซต์มากขึ้น
ในปัจจุบันมีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กที่มีเงินทุน
ไม่มากพอจะจ้างทำเว็บไซต์ สามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้
วันนี้ซันนี่รวบรวมโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่น่าสนใจมาแนะนำ เพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่อยากทำเว็บไซต์เป็นของตัวเอง มีโปรแกรมอะไรบ้างที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ ไปดูกันเลยค่ะ
แนะนำ 5 โปรแกรม สร้างเว็บไซต์
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลก และสามารถใช้ได้ฟรี เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs ที่ยังไม่มีเงินลงทุนมากนัก
1. WordPress
WordPress เป็นระบบสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ใช้งานง่าย และเป็นระบบที่สร้างเว็บไซต์ทั่วโลกกว่า 43.2%
จุดเด่นของ WordPress คือ มีธีมฟรีให้เลือกใช้มากกว่าหมื่นธีม และสามารถเปลี่ยนธีมได้อย่างอิสระ นอกจากนี้
ยังมีปลั๊กอินที่เป็นประโยชน์ต่อเว็บไซต์ให้ใช้งานฟรีอีกกว่า 6 หมื่นตัว อีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่รองรับได้หลายภาษา
โดย WordPress มีรูปแบบให้เลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบคือ
ข้อจำกัดของ WORDPRESS
2. Wix
Wix เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปแนว Website Builder หรือเครื่องมือแก้ไขแบบลากวาง (Drag and Drop) ที่ช่วยให้คุณสามารถปรับเลย์เอาต์ ปรับการจัดวาง เปลี่ยนสี ฟอนต์ เพิ่มลิงก์หรือปุ่มต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ มีเทมเพลตให้เลือกมากกว่า 800 แบบ และแต่ละแบบก็จะมีฟีเจอร์ที่ถูก Built-in มาให้ในตัว ถือว่าเป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือคนที่ไม่มีพื้นฐานในการสร้างเว็บไซต์มาก่อน
สำหรับข้อเสียของ Wix ก็คือ เมื่อมีการเผยแพร่หน้านั้น ๆ ไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนเทมเพลตได้ และหากต้องการเชื่อมต่อกับ Third Party ต่าง ๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ที่สำคัญคือ Wix ไม่รองรับการทำ SEO
3. GoDaddy
GoDaddy เป็นผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งและโปรแกรมสร้างและออกแบบเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกระดับ โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ เพราะสามารถใช้งานง่าย และมีระบบ AI ช่วยออกแบบเว็บไซต์ อีกทั้งมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม
แต่ก็มีในส่วนของตัวเลือกการปรับแต่งเว็บไซต์ที่จำกัด หากเลือกใช้งานแพลนฟรีก็จะมีเทมเพลตให้เลือกอย่างจำกัด
ที่สำคัญคือ ไม่มีเครื่องมือสำหรับสร้าง SEO ในตัว จึงไม่เหมาะหากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อทำ SEO เป็นหลัก
4. Webflow
Webflow เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน โดยเป็นเครื่องมือสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ (Web Design) เหมาะกับเว็บดีไซเนอร์ เพราะช่วยประหยัดเวลาในการส่งแบบไปทำ Code ระบบหลังบ้านใช้ง่าย เช่น แปลภาษา Automation ต่าง ๆ แถมช่วยให้นักออกแบบสร้างสรรค์เว็บไซต์ด้วย UX/UI ที่น่าทึ่งอีกด้วย แต่ด้วยความที่ Webflow เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ทำให้ยังมีคนใช้งานไม่มากนัก
ข้อจำกัดของ WEBFLOW
5. Squarespace
Squarespace เป็น Website Builder ที่มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย และสามารถปรับแต่งหน้าของเว็บไซต์ได้ตามความต้องการ ทั้งฟอนต์ สี องค์ประกอบในหน้าเพจต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี Extensions หรือส่วนเสริมที่รองรับการใช้งานเฉพาะทางสำหรับ Commerce ให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการการเงิน การจัดการด้านบัญชี การบริหารและสต๊อกสินค้า เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถสร้างเว็บส่วนตัวสำหรับทำ Portfoilio เก็บผลงาน หรือเป็นเว็บไซต์ธุรกิจที่เน้นสื่อสารสินค้าด้วยภาพ หรือคอนเทนต์ อาจจะไม่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการทำเว็บไซต์จริงจัง หรือมีการขายที่ซับซ้อนเท่าไหร่นัก
หวังว่าทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ที่เหมาะกับธุรกิจและงบประมาณของคุณได้
แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการศึกษา การใช้โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ หรืออยากขยายธุรกิจของคุณ
ก็สามารถให้ Sunnysideup ของเราช่วยดูแลเรื่องการสร้างและออกแบบเว็บไซต์ให้กับคุณได้เลย