กล่องสุ่ม หรือ “Mystery Box” ไม่ใช่กลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่แต่อย่างใด หลายๆ คนคุ้นเคยกันดีกับการตลาดลักษณะนี้ ในรูปแบบของ เครื่องกดของเล่นเด็ก เกมตักไข่ สอยดาว ฯลฯ ที่จ่ายเงินไปก่อน และต้องคอยลุ้นว่าจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน
แม้ว่าการซื้อสินค้าในลักษณะนี้ ผู้บริโภคอาจไม่ได้สินค้าที่ต้องการ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่เสมอ เนื่องจากความต้องการหลักของลูกค้าไม่ใช่สินค้า แต่เป็นความตื่นเต้น การได้ลุ้น ประสบการณ์ที่ได้รับในระหว่างที่แกะกล่อง และมีโอกาสที่จะได้สินค้าที่ตนเองอยากได้แต่ยังไม่ได้ซื้อ หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่าราคากล่อง
ข้อดีสำหรับแบรนด์
ข้อดีสำหรับผู้บริโภค
มีแบรนด์ที่เข้มแข็ง
ถ้าไม่มีแบรนด์ที่เข้มแข็ง ก็ยากที่ผู้บริโภคจะยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าที่ไม่ทราบว่าภายในจะเป็นอะไร แบรนด์ที่ต้องการใช้กลยุทธ์กล่องสุ่มจึงควรมีปัจจัยเบื้องต้น ดังนี้
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จกับกลยุทธ์กล่องสุ่ม มักจะเป็นแบรนด์ที่มีฐานผู้ติดตามจำนวนมาก และมีลูกค้าที่มีพร้อมสนับสนุนในทุกกิจกรรมของแบรนด์
แม้ว่ากลยุทธ์กล่องสุ่ม จะเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถใส่สินค้าใดก็ได้ลงไปในกล่อง แต่ผู้บริโภคย่อมคาดหวังว่าจะได้รับสินค้าที่มีราคาเหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป
ดังนั้น หากวางแผนจะใช้กลยุทธ์กล่องสุ่มเพื่อกระตุ้นยอดขาย สินค้าภายในกล่องควรมีมูลค่ามากกว่า หรือเท่ากับราคาที่กล่อง มีคุณภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเหมือนกับการฃสินค้าที่ขายในรูปแบบปกติ
กล่องสุ่มเป็นการตลาดในรูปแบบ “Surprise Marketing” ขายได้เพราะมีความน่าตื่นเต้น เพราะความต้องการหลักของผู้บริโภคคือประสบการณ์ที่จะได้รับในขณะที่แกะกล่อง รวมถึงสินค้าที่ได้รับต้องมีความคุ้มค่า และเป็นสินค้าที่ลูกค้าอยาก “อวด” ให้เพื่อนและครอบครัวเห็นบนโลกโซเชียล
ปัจจุบันคอนเทนต์วิดีโอประเภท “unbox” ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะผู้ชมได้มีส่วนร่วมกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น และการ unbox กล่องสุ่ม ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ภายในก็ยิ่งเพิ่มความน่าตื่นเต้นให้คอนเทนต์รีวิวประเภทนี้ขึ้นไปอีก กลยุทธ์กล่องสุ่มและอินฟลูเอนเซอร์จึงเป็นการจับคู่ที่ลงตัว
นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ยังช่วยให้แบรนด์สามารถใช้ลูกเล่นจากการจัดของในกล่อง ให้เป็นวัตถุดิบในการสร้าง Viral Content และสามารถสร้างผลตอบแทนทางการตลาดได้สูงกว่าการโฆษณาตามปกติหลายเท่า
แม้ว่ากล่องสุ่มจะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดูเหมือนจะมีแต่ข้อดี ได้ประโยชน์ทั้งแบรนด์และผู้บริโภค แต่ก็สามารถเข้าข่ายการพนันได้เช่นกัน หากสินค้าในกล่องแต่ละใบมีมูลค่าต่างกันมากจนเกิดความไม่เท่าเทียม กล่องสุ่มเหล่านั้นก็อาจถูกร้องเรียนและดำเนินคดีตามพรบ.การพนันได้ หรือหากสินค้าในกล่องมีมูลค่ารวมน้อยกว่าราคากล่อง ก็อาจเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค และถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้เช่นกัน
ดังนั้น แบรนด์ที่จะใช้กลยุทธ์กล่องสุ่มจึงควรมีความระมัดระวัง และตรวจสอบเงื่อนไขทางกฎหมายให้เรียบร้อยก่อนใช้กลยุทธ์นี้
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :
SUNNYSIDEUP STUDIO