หนัง(น่า)รักชวนให้หัวใจพองโตเรื่องนี้เป็นผลงานล่าสุดจากค่ายไทเมเจอร์ ที่ซันนี่ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยดูแลเพจและช่วยทำโฆษณาบน Social Media
จะทำโฆษณาใน Social Media ได้ ก็ต้องมี Fanpage เสียก่อน ที่นอกจากจะช่วยโปรโมทภาพยนตร์ แนะนำนักแสดงและตัวละครแล้ว ยังช่วยเพิ่มการรับรู้ และวางแผนการทำโฆษณาได้เป็นอย่างดี
เพจจึงจำเป็นต้องมีทั้งคอนเทนต์ที่น่าสนใจ กราฟิกที่ดึงดูดสายตา และความสม่ำเสมอในการอัปเดต
เราได้ช่วยวาง Mood & Tone สำหรับการทำ Art Work ของเพจ รวมถึงสไตล์การทำคอนเทนต์ โดยได้แยกเป็นประเภทย่อย เช่น ประโยคจากในหนัง, Meme หรือประเด็นที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนั้น เพื่อจะได้กระจายการโพสต์คอนเทนต์ในหัวข้อต่างๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ
จุดเด่นที่เราสามารถเล่นได้กับ “ใจฟูสตอรี่” เพื่อใช้ในการโปรโมทภาพยนตร์นั้นมีอยู่มากมาย เช่น
จาก Traditional Media สู่ Social Media
จะเกิดอะไรขึ้น หากเราเปลี่ยนวิธีการโปรโมทภาพยนตร์จากโลก Offline สู่โลก Online
ไทเมเจอร์คือค่ายภาพยนตร์ที่ปกติจะเน้นการทำโฆษณาแบบ Traditional Media หรือก็คือ การโปรโมทแบบออฟไลน์นั่นเอง
การโฆษณาแบบออฟไลน์คือความคลาสสิก ทำให้สิ่งที่เราต้องการนำเสนอถูกพบเห็นได้ง่ายโดยคนมากมาย แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าคนที่ผ่านมาเห็นนั้นจะใช่กลุ่มเป้าหมายจริงๆ
ความไม่แน่นอนนี้ ทำให้ Traditional Media ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เราสูญเสียงบประมาณไปกับการโฆษณามากเกินควร อีกทั้งยังวัดผลได้ไม่ชัดเจน ดังนั้น ความตั้งใจของพวกเราในครั้งนี้ คือการทำโฆษณาบนโลกออนไลน์ผ่าน Social Media เพื่อผลักดันให้ “ใจฟูสตอรี่” ถูกโปรโมทไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
การโฆษณาบนโลกออนไลน์ในยุคนี้ สำคัญไม่แพ้การซื้อเวลาเพื่อโฆษณาคั่นรายการในโทรทัศน์ เพราะสังคมปัจจุบันนั้นคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเกินครึ่งวันอยู่บนอินเทอร์เน็ต ฉะนั้น ยิ่งสินค้าหรือบริการของเราถูกพบเห็นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทำให้คนรู้จักเราเยอะมากขึ้นเท่านั้น และหากโปรโมทได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย โอกาสปิดการขายก็ยิ่งสูง
แล้วการโปรโมทภาพยนตร์ล่ะ?
ใจฟูสตอรี่ คือภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยทัพนักแสดงมากมาย ที่นอกจากจะมาพร้อมกับความสามารถและคุณภาพแล้ว ยังมีกลุ่มแฟนคลับที่เหนียวแน่นสุดๆ แต่นอกจากกลุ่มแฟนคลับแล้ว การผลักดันภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นที่รู้จักในวงที่กว้างขึ้น โดยการหากลุ่มเป้าหมายอื่นก็สำคัญเช่นกัน
เราจึงได้วางกลยุทธ์การยิงโฆษณา ผ่าน Social Media ไม่ว่าจะใน Facebook, Instagram หรือ Youtube โดยใช้เทคนิคการ Retargeting ด้วยความพิถีพิถันและมีหลายขั้นตอน โดยมีการปรับเปลี่ยนแผนหน้างานทุกวัน เพื่อให้สอดคล้องกับการโปรโมทและโปรโมชั่นหน้าโรงภาพยนตร์ในขณะนั้น
เรามีความตั้งใจและความต้องการให้เกิด “ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำโฆษณาแบบดั้งเดิม” รวมถึงต้องการให้วัดผลได้จริง เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีงบประมาณมากแค่ไหน💸แต่การใช้งบทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ก็ย่อมดีกว่าการละลายเงินทิ้งใช่มั้ยล่ะคะ 😉
💖 ใช้ Ads ไปกว่า 500 ตัว
💖 Audiences กว่า 50 กลุ่ม
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกคิดมาอย่างตั้งใจ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด โดยการยิง Ads ของเรานั้น ส่งผลให้
💖 Organic Reach เพิ่มขึ้นกว่า 8 ล้านครั้ง
💖 Organic Engagement เพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนครั้ง
ซึ่งเป็น “ผลลัพธ์” ที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ ทดแทนการทุ่มเงินไปกับการโฆษณาแบบออฟไลน์ได้มาก ลดการยิงสปอตผ่านโทรทัศน์ การติดโปสเตอร์ รวมถึงป้ายบิลบอร์ด ที่อาจจะทำให้เราเปลืองงบประมาณไปมากโดยใช่เหตุ และการโฆษณานั้นอาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ
การวางแผนการตลาดที่เชี่ยวชาญ จะช่วยให้การยิงโฆษณายิ่งมีประสิทธิภาพ ที่แม้จะลดการทำ Traditional Media ลง แต่โฆษณาก็ยังถูกรับชมได้ในหลักสิบล้าน🎉
SUNNYSIDEUP STUDIO